<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ส่อง 6 โทเค็นพรีเซลล์ใหม่ ก่อนตลาดคริปโตเริ่มเข้าสู่เทศกาล halving

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นับถอยหลังอีก 78 วันก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของคริปโต อย่าง Bitcoin halving ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้ราคาของคริปโตพุ่งขึ้นสูงอย่างมาก โดยหากอยากรีบทำกำไรก่อนหน้านั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการทำกำไรจากเหรียญคริปโตใหม่ ซึ่งสามารถพบเจอได้จากการ presale โดยนักลงทุนสามารถซื้อโทเค็นก่อนหน้าที่จะทำการเปิดตัวในกระดานแลกเปลี่ยนได้ วิธีนี้จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งโดยปกติแล้วโทเค็นในช่วง presale จะมีราคาที่คงที่ และถูกกว่าในกระดานเทรด

โปรเจกต์ที่โดดเด่นมากมายหลายโปรเจกต์ เช่น Ethereum และ Solana ล้วนเริ่มต้นมาจากการพรีเซลล์ ทั้งนั้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และโอกาสการเติบโตที่เหรียญเหล่านี้จะสามารถทำได้ ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จึงขอแนะนำ 6 อันดับเหรียญพรีเซลล์ที่ควรซื้อในช่วงก่อน halving นี้ ได้แก่ Sponge, Bitcoin Minetrix , Meme Kombat, eTukTuk, BeFi Labs และ Meson Network โดยจะใช้เกณฑ์ในการวิเคราะห์ตามกรณีการใช้งาน ความสนใจในตลาด กระแส โทเคโนมิกส์ และความปลอดภัย ถ้าทุกท่านพร้อมแล้วมาเจาะลึกแต่ละเหรียญกันเลยดีกว่า

Sponge

Sponge เป็นโปรเจกต์สุดพิเศษที่มีโทเค็นหมุนเวียนในตลาดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานเพิ่งออกมาประกาศว่าโทเค็นที่มีอยู่ก่อนหน้าจะถูกนำไปเชื่อมกับเหรียญเวอร์ชันสอง ส่งผลให้ราคาโทเค็นหลักพุ่งขึ้นสูง

โปรเจกต์ดังกล่าวเป็นเหรียญมีมที่แสดงความเคารพต่อ SpongeBob SquarePants อันเป็นที่รักของใครหลายคน โดยหลังจากทำการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2023 มูลค่าก็เพิ่มขึ้น 100 เท่า และทำมูลค่าตลาดสูงสุดที่ 100 ล้านดอลลาร์

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น Sponge V2 ยังเป็นมากกว่าเหรียญมีม โดยจะเปิดตัวเกมแข่งรถแบบ Play to Earn ที่ถูกขับเคลื่อนโดยโทเค็น SPONGEV2 

ตัวเกมจะมีทั้งเวอร์ชันฟรีและเสียเงิน โดยผู้ใช้ต้องซื้อเครดิตสำหรับเวอร์ชันเสียเงินโดยใช้ SPONGEV2 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้รับรางวัลเป็นเหรียญคริปโตมากขึ้น เสริมสร้างเศรษฐกิจในเกม

Sponge V2 ขณะนี้ยังไม่ได้ทำการเปิดตัว และกำลังอยู่ระหว่างแคมเปญ Stake-to-Bridge ซึ่งหมายความว่าผู้ถือปัจจุบันจะต้องฝากโทเค็น V1 ของตนไว้ในสัญญา Staking ของโปรเจกต์ด้วยจำนวน V2 ที่เท่ากัน ในขณะที่นักลงทุนรายใหม่สามารถซื้อและ Stake V2 ได้จากเว็บไซต์ Sponge.vip

โทเค็นทั้งหมดจะถูกล็อกไว้ในสัญญา Staking จนกว่าแคมเปญก่อนเปิดตัวจะสิ้นสุดลง ในระหว่างนี้ พวกเขาจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติม โดยปัจจุบันอยู่ที่ 249% 

อย่างไรก็ตาม เปอร์เซ็นต์ดังกล่าวจะลดลงเมื่อ Staking Pool เติบโตขึ้น กระตุ้นให้นักลงทุนเร่งซื้อเหรียญในช่วงแรก

หากสนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Sponge.vip

Bitcoin Minetrix

Bitcoin Minetrix เป็นโปรเจกต์ใหม่ที่จะมาปฏิวัติวงการซึ่งจะใช้โมเดล “Stake-to-Mine” เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถขุด Bitcoin บนคลาวด์ได้ โดยไม่ต้องใช้เหมืองขุดหรือความเชี่ยวชาญแต่อย่างใด

โปรเจกต์ดังกล่าวเป็นโปรโตคอล Ethereum หมายความว่าผู้ใช้สามารถเริ่มต้นใช้งานด้วย Crypto Wallet ที่รองรับ EVM เช่น MetaMask ได้

Bitcoin Minetrix ทำงานโดยผู้ใช้จะต้อง Stake BTCMTX เพื่อแลกกับเครดิตการขุด Bitcoin ซึ่งพวกเขาสามารถนำไปใช้เป็นพลังการขุดบนคลาวด์ได้ ซึ่งจะถูกแปลงเป็นเหรียญ Bitcoin ฟรี

กรณีการใช้งานแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาการขุด Bitcoin ได้มากมาย โดยปัญหาแรกคืออุปสรรคในการเข้าถึงการขุดเหรียญสำหรับนักลงทุนคริปโตทั่วไป ซึ่งเครือข่ายอื่นๆ ก็จัดการกับปัญหานี้เช่นกัน แต่โซลูชันของ Bitcoin Minetrix ก็โดดเด่นกว่าด้วยโทเค็น BTCMTX ที่มีการกระจายอำนาจและโปร่งใส โดยได้รับการรักษาความปลอดภัยผ่านเครือข่าย Ethereum อีกทั้งตัวโทเค็นจะช่วยขจัดความเสี่ยงของการหลอกลวงการขุดเหรียญบนคลาวด์ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน

ข้อดีอีกอย่างของ Bitcoin Minetrix คือเป็นโทเค็นที่มีความใกล้ชิดกับ Bitcoin ซึ่งอีกไม่นานก็จะเกิดการ Halving ขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกๆ สี่ปีเท่านั้น โดยจะลดจำนวน Bitcoin ใหม่ที่เข้าสู่ตลาดลงครึ่งหนึ่ง ทำให้เหรียญหายากและสร้างความกลัวตกรถ (FOMO)

เนื่องจากรางวัล Bitcoin Minetrix จะถูกจ่ายเป็น Bitcoin จริง และผู้ใช้ต้องใช้โทเค็น BTCMTX ในการ Staking ซึ่งอาจเป็นสร้างความสัมพันธ์เพื่อให้เหรียญเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดและทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง

หากสนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Presale ของ Bitcoin Minetrix 

Meme Kombat

Meme Kombat เป็นเหรียญมีมและ Utility Token แบบ GambleFi ในตัวเดียวกัน ซึ่งผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองอย่างเข้ากับระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนด้วยยูทิลิตี้แบบไดนามิก พร้อมนำเสนอทางเลือกในการพนันด้วยเหรียญคริปโต “สไตล์ Web 2.0” โดยการรวมเหรียญมีมและงานกราฟิกแบบเกม 

โปรเจกต์ดังกล่าวนำเสนอโอกาสให้ผู้ใช้เดิมพันในการประลองที่สร้างโดย AI ระหว่างตัวละครจากเหรียญมีม โดยผู้ใช้จะสามารถเดิมพันได้ด้วยโทเค็น MK โทเค็นประจำเครือข่ายที่เป็นที่นิยม

สำหรับตัวเกมนั้นมาพร้อมกับโหมดการเล่นที่หลากหลาย เช่นโหมดผู้เล่นเดี่ยว โหมดผู้เล่นหลายคน และโหมด Stake ทำให้มั่นใจได้ว่า Meme Kombat จะมีสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนต้องการ พร้อมกับเพิ่มเสน่ห์อันน่าหลงใหลให้กับตัวเกม

ผู้ใช้สามารถ Stake โทเค็น MK เพื่อรับผลตอบแทนสูงถึง 120% ต่อปีได้ โดยในตอนนี้ 80% ของโทเค็น MK ถูกนำไป Stake เป็นที่เรียบร้อยแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในศักยภาพของการเติบโตระยะยาวของตัวโปรเจกต์

ข้อดีอีกอย่างของ Meme Kombat คือทางทีมและ smart contracts ได้รับการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย โดยถือเป็นคุณสมบัติเด่นที่ช่วยสร้างความแตกต่างที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับเหรียญมีมตัวอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมในเรื่องความโปร่งใสและความปลอดภัยอีกด้วย

เพื่อที่จะขยายการเข้าถึง ทางทีมงาน Meme Kombat จึงได้ออกประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าจะจัดการแข่งขันที่ผู้เข้าชนะสามคนจะได้รับรางวัล 300 ดอลลาร์ โดยการแสดง “ทักษะการสร้างมีมคุณภาพ”

จนถึงขณะนี้ โปรเจกต์สามารถพรีเซลล์ระดมทุนได้มากกว่า 7.8 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าระดมทุนสูงสุดอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์ ดังนั้น ใครที่สนใจซื้อก็ไม่ควรรอช้าแล้ว สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ Meme Kombat

eTukTuk

eTukTuk เป็นเหรียญคริปโตมาใหม่ที่จะมาจัดการกับปัญหาโลกร้อนด้วยรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าและสถานีชาร์จที่ขับเคลื่อนโดยเครือข่ายแบบ decentralize และเทคโนโลยี AI

eTukTuk ยังคงอยู่ในช่วงพรีเซลล์รอบแรกๆ โดยปัจจุบันสามารถระดมทุนได้เกือบ 1 ล้านดอลลาร์ในขณะนี้ โดยมีราคาปัจจุบันอยู่ที่ 0.94 บาท แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วงระยะเวลาที่ทำการพรีเซลล์ ซึ่งราคาอาจจะมีการเพิ่มอีกครั้งในอีก 13 วัน

ตามเว็บไซต์ eTukTuk อธิบายไว้ว่า โปรเจกต์นี้เป็น “การปฏิวัติ การคมนาคมที่ยั่งยืน” โดยตั้งเป้าที่จะเปิดใช้งานรถไฟฟ้าที่ปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยเริ่มต้นที่ศรีลังกาก่อน จากนั้นจะตั้งเป้าในการขยายไปทั่วโลกเมื่อผลิตภัณฑ์และระบบของบริษัทถูกพัฒนาอย่างเต็มที่

eTukTuk ได้สร้างพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเช่น CMG, CyberConnect และ Eternl แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโปรเจกต์นี้สามารถทำได้จริง พร้อมมอบโอกาสพิเศษในการลงทุนในตอนที่พรีเซลล์ยังอยู่ในช่วงแรกๆ

นอกจากนั้น โปรเจกต์ยังได้รับการตรวจสอบว่ามีทีมที่มีประสบการณ์สูงจากบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เป็นศูนย์กลางของวงการคริปโต เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักร

โทเค็น TUK จะถูกใช้ในการขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม eTukTuk ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเครือข่ายสามารถทำธุรกรรม รวมถึงการชำระค่าบริการ และการวาง Staking ได้อีกด้วย โดย Whitepaper อธิบายว่าวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางการเงินของประชากรราว 1.4 พันล้านคนทั่วโลกที่ไม่มีบัญชีธนาคาร

หากสนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ eTukTuk

BeFi Labs

BeFi Labs เป็นเทอร์มินัลการซื้อขายเหรียญกลุ่ม BRC20 ที่รองรับ Crypto Wallet มากมาย รวมถึง MetaMask เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมอันโดดเด่น เนื่องจากการกระจายตัวของเครือข่าย Bitcoin และ BRC20 ที่มีอยู่จากระบบนิเวศคริปโตและ EVM ที่กว้างขึ้น

ตามเว็บไซต์ BeFi Labs อธิบายว่าตัวแพลตฟอร์มเป็นนวัตกรรม CeDeFi ที่ไม่จำเป็นต้อง “ใช้งาน Wallet มากมาย”

เว็บไซต์อธิบายว่าผู้ใช้สามารถขนย้าย “ข้าม CeFi, DeFi และ Web 3.0 ได้อย่างราบรื่นด้วยการกดคลิกเพียงครั้งเดียว”

BeFi DEX มอบประสบการณ์แบบใหม่ให้กับผู้ใช้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมสำหรับการซื้อขาย BRX20 และ Ordinals ผสมผสานรวมกับ EVM, Solana, และ Centralized Exchange มากมาย รวมถึง Binance และ OKX 

นอกเหนือจากเหรียญคริปโตที่มีให้เลือกมากมายแล้ว BeFi Labs​ ยังมีสภาพคล่องขนาดมหาศาล ซึ่งช่วยให้การเทรดราบรื่นยิ่งขึ้น

มากไปกว่านั้น BeFi ยังนำเสนอ Non-custodial Wallet และ Multichain Wallet ซึ่งได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 อีกด้วย

โดยตัว Crypto Wallet ที่ว่าสามารถเชื่อมต่อได้กับ Web 2.0 เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถลงชื่อเข้าใช้ด้วย Twitter หรืออีเมลของตนได้ ทำให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จาก BeFi มากขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่วงการคริปโตได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง

ขณะนี้โทเค็น BeFi กำลังอยู่ระหว่าง IDO บน Ape Terminal และผู้ใช้สามารถเข้าร่วมได้โดยใช้ MetaMask, Trust Wallet และ Software Wallet ชั้นนำอื่น ๆ

Meson Network

Meson Network เป็นตลาดโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายอำนาจที่เชื่อมต่อโลกจริงเข้ากับ Blockchain เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำธุรกรรมแบนด์วิธเชิงคำนวณได้ 

เว็บไซต์ของโปรเจกต์ได้เน้นย้ำว่าระบบข้อมูลในปัจจุบันนั้นไร้ประสิทธิภาพ ในขณะที่ Meson Network จะนำเสนอโซลูชันแบนด์วิธในรูปแบบบริการที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน

ภายใน Meson Network Whitepaper ระบุว่าจะ “ทำลายการผูกขาด” ของบริษัทระบบคลาวด์รายใหญ่ เช่น Amazon Web Services และ Cloudflare นอกจากนี้ ตัวโปรเจกต์ยังมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประมวลผลข้อมูลด้วยราคาที่ต่ำกว่าบริการคอมพิวเตอร์คลาวด์แบบดั้งเดิมหรือทางเลือกอื่นที่ใช้ Blockchain ในปัจจุบัน เช่น Filecoin

ด้วย Meson ใครที่ต้องการแบนด์วิธก็สามารถเช่าได้จากเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ ซึ่งสอดคล้องกับอุดมการณ์แรกเริ่มของการใช้งานคริปโตเคอเรนซี 

ตัว Whitepaper ยังได้เน้นถึงหลักการออกแบบหลักๆ สี่อย่างที่โปรโตคอลจะนำมาใช้งาน ได้แก่ ความเรียบง่าย ความเปิดกว้าง การทำให้เป็นโมดูล และความสะดวกในการใช้งาน 

โดยโทเค็น MSN จะถูกใช้เพื่อทำธุรกรรมในตลาด Menson Network และใช้เพื่อการกำกับดูแล 

ปัจจุบัน ตัวโปรเจกต์มีนักขุดจำนวน 340,000 คน และมีโหนดที่ใช้งานอยู่มากถึง 100,000 โหนดใน 150 ประเทศ

Menson Network จะเริ่มเปิดขายเหรียญภายในชุมชนในวันที่ 8 กุมภาพันธ์บน CoinList โดยนักลงทุนจะมีเวลาจนกว่าจะถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ในการลงทะเบียนในช่วงพรีเซลล์

บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์