<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

งานวิจัยใหม่ชี้ Solana เปรียบเสมือน Apple ในโลกคริปโต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Solana (SOL) ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเลียนแบบ Apple ในวงการคริปโตเท่านั้น เพราะว่าแนวทางของ Apple คือการใช้ฮาร์ดแวร์เป็นศูนย์กลางหรือเน้นขายตัวฮาร์ดแวร์เป็นหลัก แต่โซลาน่านั้นใช้วิธีที่แตกต่างออกไป โดยจะมุ่งเน้นไปที่ประโยชน์ใช้สอยจากฮาร์ดแวร์อีกที อย่างเช่นพลังในการประมวณผล เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานในโลก Web3

Solana มีจุดเด่นอะไรที่ทำให้แตกต่างจากเหรียญคริปโตอื่นๆ ในตลาด

ผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์ Solana คุณ Raj Gokal มักพูดถึงวิสัยทัศน์ของ Solana ว่าเป็น “Apple of crypto” โดยเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านซอฟต์แวร์ และการแนะนำฟังก์ชันและประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งาน

การเปรียบเทียบนี้ แม้เทคโนโลยี APT จะเหมาะสำหรับการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านประสิทธิภาพและประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ของ Solana แต่ก็ยังเผยให้เห็นแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น ซึ่งนักวิจัยจาก Four Pillars กล่าวว่า หัวใจสำคัญที่แท้จริงของ Solana อยู่ที่ประสิทธิภาพของเครือข่าย ซึ่งขับเคลื่อนโดยการประมวลผลแบบหลายเธรด (multi-threading)

ความสามารถทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยมนี้ดึงดูดนักพัฒนาที่เป็น ‘Pragmatic developer’ เข้ามาสำรวจศักยภาพของ Solana ในช่วงที่ DeFi และ NFT กำลังบูม และเนื่องจากความสามารถในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วด้วยค่าธรรมเนียมต่ำทำให้ Solana กลายเป็นคู่แข่งของ Ethereum ได้อย่างรวดเร็ว

นักวิจัยจาก Four Pillars กล่าวว่า “Solana มีความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมหลายพันรายการต่อวินาที โดยใช้เวลาสร้างบล็อกเพียง 400-500 มิลลิวินาที ซึ่งถือเป็นประสิทธิภาพที่สูงกว่าบล็อกเชนอื่นๆ อย่างมาก ในที่สุดเป้าหมายของการนำแนวทางเทคนิคนี้มาใช้ของ Solana คือการบรรลุภารกิจสองประการ นั่นคือ การเป็นแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น สามารถรองรับการ Scale หรือการรองรับการใช้งานจำนวนมาก และสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างแอปพลิเคชัน”

Layer 1 Transaction Costs ที่มาภาพ: Four Pillars

Solana ได้ดำเนินการแก้ไขจุดอ่อนของเครือข่าย โดยการนำ โปรโตคอล QUIC มาใช้สำหรับการสื่อสารที่เชื่อถือได้  ช่วยให้การส่งข้อมูลมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเปิดตัวระบบ Staked-Weighted Quality of Service (QoS) เพื่อจัดลำดับความสำคัญของของธุรกรรมบนเครือข่าย  โดยพิจารณาจากจำนวน SOL ที่ผู้ใช้แต่ละคน Stake  นอกจากนี้ยังมีการการนำระบบ Localized Fee Market มาใช้ยังช่วยลดสแปมและส่งเสริมการใช้เครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

นักวิจัยจาก Four Pillars กล่าวเพิ่มเติมว่า “QUIC เป็นโปรโตคอลการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นจาก UDP โดยยังคงรักษาข้อดีของ UDP ไว้ แต่ลดความซับซ้อนของกระบวนการเชื่อมต่อและ การ handshake ของ TCP ด้วยเหตุนี้ QUIC จึงช่วยให้ Solana ได้รับการสื่อสารที่เชื่อถือได้

Solana's Scalability ProtocolsSolana’s Scalability Protocols ที่มาถาพ: Four Pillars

หัวใจสำคัญของ Solana คือ คอมมูฯและการพัฒนาระบบนิเวศ ตัวอย่างเช่น การแจก Airdrop เหรียญมีม BONK ซึ่งช่วยกระตุ้นชุมชน Solana โดยการจัดสรร 5% ของโทเค็นทั้งหมดให้กับนักพัฒนา ซึ่งการกระจายโทเค็นนี้ช่วยเชื่อมโยงชุมชนเข้าด้วยกัน และจุดประกายให้เกิดการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญภายในระบบนิเวศ เนื่องจากเหล่านักพัฒนาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโปรเจกต์


น่าประหลาดใจที่มูลค่าของเหรียญมีม (meme coin) อย่าง BONK พุ่งสูงขึ้นถึง 20,400% จากจุดต่ำสุด เป็นปรากฎการณ์ดีดกลับของราคาที่ช่วยจุดกระแสความสนใจใน Solana ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง การพุ่งขึ้นของมูลค่าเหรียญนี้ นำไปสู่การแจกจ่ายโทเค็น BONK จำนวน 30 ล้านโทเค็น ให้แก่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ Saga  ยิ่งไปกว่านั้น การกระจายโทเค็นนี้ยังช่วยขยายความสนใจในทั้งเหรียญ BONK และ Solana ให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ โปรเกจกต์ต่างๆ ภายในระบบนิเวศของ Solana  เช่น Jito, Pyth Network และ Jupiter ยังได้ประกาศกลยุทธ์การแจก Airdrop ของตัวเอง ช่วยกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนในตลาดอีกครั้ง ส่วนโปรเจกต์อื่นๆ ภายในระบบนิเวศ  เช่น Tensor, marginfi, Zeta และ Parcl ก็ได้เปิดเผยแผนการเกี่ยวกับ Airdrop เช่นกัน

BONK Price Performanceราคา BONK ที่มาภาพ: TradingView

Solana ไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาด้านเทคโนโลยี และการแจก Airdrop เท่านั้น   กลยุทธ์อันชาญฉลาดของ Solana ได้ขยายไปสู่แนวคิดใหม่ๆ  Solana กำลังเป็นผู้เบิกทางในด้านต่างๆ เช่น decentralized physical infrastructure network (DePIN)  และระบบการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลที่สะดวกและรวดเร็ว โดย Solana กำลังเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีบล็อกเชนและระบบการเงินแบบดั้งเดิม

นอกจากนั้น Solana ยังได้ความร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม อย่าง Circle และ Visa ซึ่งบ่งบอกถึงจุดยืนที่แข็งแกร่งของ Solana ในด้านระบบการชำระเงินด้วยคริปโตอีกด้วย

สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญ คือความมุ่งมั่นของ Solana ในการมีผู้ตรวจสอบ (validator) จากหลากหลายกลุ่ม และการกระจายอำนาจ (decentralization)  สะท้อนถึงความทุ่มเทในการรักษาเสถียรภาพและความปลอดภัยของเครือข่ายโซลาน่า การมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนในการรัน Node และเพิ่มค่า Nakamoto Coefficient แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่โดดเด่น ของ Solana ในการสร้างระบบที่ทั้งขยายขนาดได้ (scalability) และยังคงรักษากระจายอำนาจ(decentralization)ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ที่มา:beincrypto