<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CEO ของ SkyBridge Capital ชี้ ความต้องการ Bitcoin ในอนาคตจะเพิ่มขึ้น พร้อมแนะนำให้ซื้อเก็บอย่างเดียว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ล่าสุด Anthony Scaramucci มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง SkyBridge Capital ได้ออกมาแชร์มุมมองของเขาเกี่ยวกับความต้องการของการถือครอง Bitcoin ในอนาคต โดยคาดการณ์ว่า จะมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญภายในสิบปีข้างหน้า โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ดังกล่าวซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ปัจจัยแรก คือการที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้อนุมัติให้จัดตั้งกองทุน Bitcoin Spot ETFs ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความต้องการในการถือครอง Bitcoin มากขึ้น

ปัจจัยที่สอง คือ เหตุการณ์​ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นช่วงวันที่ 20 – 22 เดือนเมษายนนี้ ที่จะส่งผลให้อุปทานของ Bitcoin ลดลงและอาจส่งผลให้อุปสงค์ราคาของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

อย่างไรก็ตาม Scaramucci ยังได้ออกมายอมรับว่ายังมีปัจจัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของตลาดที่เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้อีกด้วย เช่นการที่ Grayscale ถือครอง Bitcoin น้อยลงหลังจากผ่านการอนุมัติ ETFs มาได้เพียงแค่ 2 เดือน หรือการที่มีทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ล้มละลายถูกเทขายออกมาจำนวนมาก เป็นต้น

เมื่อพูดถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในวงกว้าง Scaramucci ได้หยิบยกเอาความเห็นของ Mike Novogratz จาก Galaxy Digital ที่มีการระบุว่า เงินจำนวน 84 ล้านล้านดอลลาร์ที่ชาวเบบี้บูมเมอร์ในสหรัฐฯ เป็นเจ้าของนั้น กำลังถูกถ่ายโอนไปยังคนรุ่นใหม่ เขาเปรียบว่า คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะยอมรับ Bitcoin เป็นสินทรัพย์มากกว่าคนรุ่นก่อน

Scaramucci นั้นก็มีความมั่นใจ เกี่ยวกับอนาคตของ Bitcoin โดยเขาได้ยกตัวอย่างการคาดการณ์ของ Michael Novogratz และ Cathie Wood ที่คาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะมีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยมุมมองของเขามองว่า Bitcoin อาจไปไม่ถึงราคาดังกล่าว แต่มันจะสร้างมาตราฐานตนเองให้คล้ายกับมาตราฐานทองคำดิจิทัล

ยิ่งไปกว่านั้น Scaramucci ยังมองว่า ในอนาคต Bitcoin จะมีศักยภาพใกล้เคียงกับ Berkshire Hathaway พร้อมกล่าวว่า

“อย่าขาย Bitcoin เด็ดขาด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ให้ถือเก็บไว้นาน ๆ จนคุณลืมไปเลยว่าเคยซื้อ Bitcoin ไว้”

ที่มา: bitcoinsistemi