นักวิเคราะห์ Crypto ได้เรียกวัฏจักร Bitcoin halving ในรอบว่าเป็นตลาดกระทิงที่ “แปลกประหลาดที่สุด” เท่าที่เคยมีมา หลังจากราคา Bitcoin ได้พุ่งทำจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) และมีการแห่เข้าซื้อเหรียญมีมเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 1 เมษายน Zach Rynes เจ้าหน้าที่ประสานงานในชุมชน Chainlink หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ChainLinkGod’ ได้โพสต์ถึงผู้ติดตามจำนวน 171,000 คนของเขาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่า “ตลาดขาขึ้นครั้งนี้แปลกประหลาดมาก”
ในอดีต การพุ่งขึ้นของราคาในช่วงขาขึ้นจะเห็นสภาพคล่องไหลเข้าสู่ Bitcoin ก่อนที่จะย้ายไปยัง Ethereum และเหรียญอื่นที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ และในที่สุดก็จะไหลเข้าสู่เหรียญเล็ก ๆ ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตในปัจจุบันได้ “ข้ามขั้นตอนสอง ถึงสามขั้นตอนที่เราเคยเห็นในรอบวงจรก่อนหน้านี้” โดยมีกระแสเงินไหลจาก BTC ตรงไปยังเหรียญมีม ซึ่ง “ค่อนข้างผิดปกติ” Rynes กล่าว
มูลค่าตลาดโดยรวมของเหรียญมีมเพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในวันที่ 1 เมษายน โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาเหรียญที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ เช่นเหรียญ ‘dogwifhat’ (WIF) บนบล็อกเชน Solana และเหรียญ Book of Meme (BOME) รวมถึงเหรียญมีมเก่า ๆ เช่นเหรียญ Pepe และเหรียญ BONK
เช่นเดียวกับ Base เครือข่าย layer-2 ของ Coinbase ที่กลายเป็นกลายเป็นแหล่งรวมของการเก็งกำไรในเหรียญมีม
โทเค็น Base-native ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่างเหรียญ DEGEN เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าจับตามองถึง 2,800% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
เหรียญมีมเป็นโทเค็นที่ไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ ถูกแจกจ่ายไปยังชุมชนบนเครือข่ายสังคมแบบ Decentralized อย่าง Farcaster
Rynes กล่าวเสริมว่า ปัจจัยพื้นฐานของตลาดไม่ได้มีบทบาทสำคัญมากนักในขณะนี้:
“มีเงินจากนักลงทุนรายย่อยเข้ามาบ้าง แต่ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงกับระดับที่เราเคยเห็นมาก่อน
ตอนนี้เราอยู่ในระบบเศรษฐกิจแห่งการดึงดูดความสนใจ โดยอาศัยเรื่องเล่าเฉพาะเจาะจง ไม่ได้อาศัยปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง ”
Anthony Sassano หนึ่งในผู้สนับสนุน Ethereum กล่าวเมื่อวันที่ 1 เมษายนว่า หลังจากใช้ประมาณ 10 ปี ในของสกุลเงินดิจิทัล “ผมสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่า นี่คือช่วงตลาดขาขึ้นที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
เขากล่าวเสริมว่า นักลงทุนรายย่อยยังไม่เข้ามา “อย่างมีนัยสำคัญ” จนกว่าทั้งตลาดจะขยับขึ้นไปด้วยกัน
“ไม่ใช่การพุ่งขึ้นเป็นพัก ๆ เฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมแบบแยกส่วนเหล่านี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าถูกผลักดันโดยกลุ่มคนในวงการคริปโต และเป็นเพียงแค่การหมุนเวียนเงินก้อนโต ๆ เท่านั้น””
อีกปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มความแปลกประหลาดของวงจรตลาดนี้คือ “ราคา Bitcoin ที่พุ่งทำจุดสูงสุดตลอดกาลก่อนการ halving”
ราคา Bitcoin ได้พุ่งแตะระดับ 73,734 ดอลลาร์ ในวันที่ 14 มีนาคม และการ halving ของ Bitcoin (BTC) เหลือเพียง 18 วันเท่านั้น โดยจะเกิดขึ้นในวันที่ 20 เมษายน นักวิเคราะห์ได้ทำนายไว้แล้วว่า การปรับฐานราคาก่อนการ halving (pre-halving retrace) ได้สิ้นสุดลงแล้ว
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นักวิเคราะห์กราฟเทคนิคชื่อดังอย่าง Moustache ได้กล่าวว่า BTC ได้กลับมาทดสอบระดับแนวต้านสำคัญของอัตราส่วน Fibonacci ratio อีกครั้ง ซึ่งเคยเห็นในรอบ (halving cycle) ที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการ halving
ที่มา : cointelegraph
ที่มา : cointelegraph