<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักสิทธิมนุษยชนเผย ! Bitcoin เป็น “ของแสลง” ของเหล่าผู้นำจอมเผด็จการ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันทั่วทั้งโลกต่างให้ความสนใจในตัว Bitcoin กันเพิ่มมากขึ้นหลักจากที่ไม่นานมานี้ได้รับการอนุมัติจากทาง ก.ล.ต. สหรัฐ ฯ​ในการจัดตั้งกองทุน Spot ETFs และทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 75,000 ดอลลาร์

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบ Bitcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าผู้นำเผด็จการ โดยล่าสุดในรายการ podcast “What Bitcoin Did” ทางรายการได้รับเชิญ Alex Gladstein หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของมูลนิธิสิทธิมนุษยชน (HRF) มาอธิบายความคิดเห็นของเขาว่าทำไมคนทั่วโลกมีความคิดเห็นแตกออกเป็นสองฝ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยี Bitcoin ที่กำลังเข้ามา disrupt สร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบโลกการเงิน

Gladstein นั้นได้กล่าวในรายการว่าเป็นธรรมดาที่เหล่าผู้นำเผด็จการจะไม่ชอบ Bitcoin เพราะตัวของ Bitcoin นั้นสนับสนุน “อิสรภาพ” ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้นำเผด็จการนั้นไม่ชอบ โดยเขาได้ยกตัวอย่างจีนและรัสเซียขึ้นมาว่าประเทศเหล่านั้นจะไม่สามารถมีการปกครองแบบนั้นได้เลยหากปราศจาก การเซนเซอร์ , การยึดทรัพย์สินประชาชน และ มีตลาดทุนปิด

ขณะเดียวกันระบบ Proof of Work (PoW) บนบล็อกเชนได้ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับขั้วเผด็จการโดยเป็นการมอบอิสระในการพูด , ความสามารถในการครอบครองสินทรัพย์ และมีตลาดที่เปิดตลอดโดยไม่มีการปิดกั้น โดยตัวของ Gladstien ยังได้กล่าวถึงระบบ peer-to-peer (P2P) อีกว่าเป็นอันตรายต่อแก่นแท้ของหลักเผด็จการ

สำหรับตัวของ Gladstein นั้นเขาเริ่มหันมาให้ความสนใจใน Bitcoin ตั้งแต่ปี 2011 หลังจากสถาบันต่าง ๆ ของรัฐบาลตัดช่องทางการหารายได้ของ WikiLeaks ซึ่งเป็นเว็บไซต์ไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำการเปิดโปงข้อมูลลับของรัฐบาลต่าง ๆ ทำให้เขาต้องเลิกใช้เงินเฟียตและหันมาหา Bitcoin ซึ่งกว่าเขาจะยอมรับมันจริง ๆ ก็ใช้เวลาอีก 2 ปีที่เขามองเห็นถึงศักยภาพของ Bitcoin ในการระดมทุนให้ผู้ประท้วงชาวยูเครน

ดังนั้นทาง HRF จึงมอง Bitcoin ว่าเป็นมากกว่าแค่เครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ แต่เป็นเครื่องรางของอำนาจอธิปไตย ความเป็นส่วนตัว และอิสรภาพ  โดยปัจจุบันประเทศเอลซัลวาดอร์ ได้ประกาศให้ Bitcoin ให้เป็นเงินที่ถูกกฎหมายตั้งแต่ปี 2021 เปิดประตูสู่ความสำเร็จในการที่จะนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมมากมาย

ที่มา : Daily coin