กองทุน Spot Bitcoin ETF เผชิญกับเงินลงทุนไหลออกจำนวนมาก มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่กำลังสร้างความกังวลให้กับตลาดคริปโต
นักลงทุนกำลังประเมินการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ใหม่อีกครั้ง รวมถึงกองทุน Bitcoin ETFs เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น สถานการณ์นี้สะท้อนถึง ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ระหว่างตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมหภาค กับ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
แรงเทขายกองทุน Bitcoin ETF ผลพวงจากความคาดหวังของตลาด
ข้อมูลจาก SoSo Value แสดงให้เห็นว่า กองทุน Bitcoin Spot ETF ในสหรัฐฯ ได้เห็นการไหลออกสุทธิของกระแสเงินลงทุนรายวัน คิดเป็นมูลค่า 200.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ซึ่งกองทุน Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) และ กองทุน ARK 21Shares Bitcoin ETF (ARKB) ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีการไหลออกของเงินลงทุนมูลค่า 121 ล้านดอลลาร์และ 56 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ในขณะเดียวกันกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock ไม่มีบันทึกการไหลออกของเงินลงทุนในช่วงเวลาเดียวกัน
ค้นหาข้อมูลประวัติการไหลออกของเงินลงทุนในกองทุน Bitcoin ETF ที่มา: SoSo Value
การไหลออกของเงินลงทุนในครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกต เนื่องจากก่อนหน้านี้ กองทุน Bitcoin Spot ETF เหล่านี้ มีการไหลเข้าสุทธิของเงินลงทุนตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไปโดยกองทุนเหล่านี้เริ่มมีการไหลออกสุทธิของเงินลงทุน เนื่องจากการคาดการณ์ของผู้เล่นในตลาดที่รอติดตามการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index – CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะมีการเผยแพร่ข้อมูลในวันนี้
Jesse Cohen นักวิเคราะห์ตลาดโลกที่ Investing.com เน้นย้ำถึงความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้น จากรายงาน CPI ที่กำลังจะมีการเผยแพร่ออกมา Jesse Cohen ระบุว่า รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ น่าจะช่วยยืดระยะเวลาการพุ่งขึ้นของตลาดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ สิ่งนี้สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
Jesse Cohen กล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งเกินคาดการณ์ อาจกระตุ้นความผันผวนของตลาด เนื่องจากมันอาจทำให้ความคาดหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป และยังก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้ออีกด้วย”
บริษัทวิจัย The Kobeissi Letter ก็ได้แสดงความคิดเห็นเช่นกัน โดยชี้ให้เห็นถึงการคาดการณ์ที่แตกต่างกันเกี่ยวกับข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บริษัท The Kobeissi Letter ระบุว่า ในขณะที่ธนาคารใหญ่ ๆ คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI จะอยู่ที่ 3.4% แต่ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาส 17% ที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่า 3.4% และมีโอกาส 41% ที่เงินเฟ้อจะต่ำกว่า 3.4%
The Kobeissi Letter กล่าวว่า “ถ้าตัวเลขเงินเฟ้อ CPI วันนี้ สูงกว่า 3.4% แสดงว่า อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 3 เดือนจาก 4 เดือนที่ผ่านมา”
สัญญาณทางเศรษฐกิจแบบผสมทำให้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ และผลการดำเนินงานของตลาดมีความซับซ้อนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทสหรัฐฯ เพิ่มงาน 272,000 ตำแหน่ง ในเดือนพฤษภาคม และค่าจ้างก็เพิ่มขึ้นในอัตรา 4.1% ต่อปี ในขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4% ความขัดแย้งของการจ้างงานและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ราคาของ Bitcoin ในอดีตมีแนวโน้มที่พุ่งขึ้น หลังจากการประกาศของ ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แม้จะมีความผันผวนในช่วงแรกก็ตาม ซึ่งนักวิจัยคริปโตนามแฝง ที่ชื่อ Gumshoe ตั้งข้อสังเกตนี้ในการวิเคราะห์ล่าสุดของเขา
Gumshoe กล่าวว่า “ ในปี 2024 มีการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ไปแล้ว 4 ครั้ง เขายังสังเกตเห็นอีกว่า ‘ก่อนการประชุมทุกครั้ง ราคา Bitcoin (BTC) ร่วงลง 10% ภายใน 48 ชั่วโมง แต่หลังการประชุมในวันนั้น ราคาสามารถฟื้นตัวกลับได้ทั้งหมด สรุปได้ว่า ตลาดมักจะคาดการณ์สถานการณ์เลวร้ายเกินจริงจากแถลงการณ์ของคณะกรรมการฯ แล้วราคาจึงปรับตัวขึ้น ”
ในขณะที่ตลาดเตรียมพร้อมรับมือกับข้อมูลเงินเฟ้อที่กำลังจะเผยแพร่ออกมา การไหลออกของกองทุน Spot Bitcoin ETF ก็สะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุน โดยผลลัพธ์ของรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ และการดำเนินการต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) น่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดในช่วงเวลาอันใกล้
ที่มา : beincrypto