Bitcoin ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเปลี่ยนโลกการเงินเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยตัวมันเองถูกจำกัดความว่าเป็น สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ไม่สามารถจับต้องได้แต่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนซื้อขายกันได้ผ่านการส่งข้อมูลธุรกรรมบนเครือข่าย
ทว่า หลายคนเคยอาจสงสัยว่าในเมื่อ Bitcoin มีตัวตนอยู่ในโลกออนไลน์ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจู่ ๆ อินเทอร์เน็ตดับหายไป ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาคเพียงเท่านั้น แต่หมายถึงในระดับโลก ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบด้วยกัน
ไม่มีอินเทอร์เน็ต Bitcoin จะใช้งานได้อย่างไร ?
ปกติแล้วอะไรที่อยู่บนโลกออนไลน์ถ้าเกิดระบบล่มก็มักจะเข้าไม่ได้ แต่ในกรณีของ Bitcoin นั้นต่างออกไปเพราะต่อให้พื้นที่อับสัญญาณ หรือปราศจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยสิ้นเชิงก็ไม่สามารถทำให้ Bitcoin หายไปได้
สำหรับสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเป็นผลมาจากตัวของ Bitcoin สามารถทำงานได้ แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมันสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบดาวเทียม ขอแค่สามารถรับสัญญาณได้ก็เพียงพอแล้ว
นอกจากการใช้อินเทอร์เน็ตและสัญญาณดาวเทียมแล้ว Bitcoin ยังสามารถทำงานผ่านทางเลือกอื่น ๆ ได้ เช่น การใช้คลื่นวิทยุหรือสัญญาณมือถือ โดยผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เฉพาะและเสาสัญญาณที่รองรับ ยกตัวอย่างที่โดดเด่นคือ Machankura โซลูชันจากนักพัฒนาชาวแอฟริกาใต้ Kgothatso Ngako ที่สร้างขึ้นในปี 2022 เพื่อช่วยให้ผู้คนในแอฟริกาที่ขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสามารถทำธุรกรรม Bitcoin ได้ผ่านเทคโนโลยี USSD (Unstructured Supplementary Service Data) ซึ่งใช้งานกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป เช่น การกดรหัส 4838333# เพื่อเข้าถึงเมนูตรวจสอบยอดเงิน หรือส่งและรับ Bitcoin ได้อย่างง่ายดาย
อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจคือการใช้ Mesh Network ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายข้อมูลแบบไม่พึ่งพาตัวกลาง โดยอุปกรณ์แต่ละชิ้นในเครือข่ายจะสามารถส่งและรับข้อมูล รวมถึงกระจายข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ เครือข่ายนี้เปรียบเสมือนตาข่ายใยแมงมุมที่อุปกรณ์ต่าง ๆ เชื่อมต่อไขว้กันไปมา แม้ว่าการใช้ Mesh Network จะช่วยให้ Bitcoin ทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ได้จริง แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องความล่าช้าและการตรวจสอบที่ไม่รวดเร็วพอ ทำให้การใช้งานวิธีนี้ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักเมื่อเทียบกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ท้ายที่สุด แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะล่มสลายไปทั่วโลก Bitcoin ยังคงสามารถดำรงอยู่ได้ผ่านทางเลือกที่หลากหลายเหล่านี้ ซึ่งสะท้อนถึงความยืดหยุ่นและความชาญฉลาดของเครือข่าย Bitcoin ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าเทคโนโลยีสามารถปรับตัวเพื่อตอบสนองสถานการณ์ที่ท้าทาย และยังคงตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วโลกต่อไปในทุกสถานการณ์