ในช่วงปีที่ผ่านมาหลายคนคงจะทราบกันดีว่า Bitcoin ได้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า Halving ขึ้น ซึ่งมันจะส่งผลทำให้จำนวน Bitcoin ที่ขุดออกมาได้มีจำนวนลดน้อยลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี (ปัจจุบันเหลือ 3.125 BTC) และต้นทุนก็สูงขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้าหรือค่าเครื่องขุดที่ต้องหมั่นอัปเกรดให้ทันสมัย สิ่งนี้ได้ทำให้นักขุดและนักลงทุนหลายคนตั้งคำถามว่า ธุรกิจการขุดคริปโตจะยังคุ้มอยู่ไหมที่จะสร้างรายได้ให้เราในปี 2025
สำหรับการหารายได้ในวงการการขุดจะเป็นไปตามหลักอุปทาน-อุปสงค์ กล่าวคือหากมีนักขุดจำนวนมากขึ้น หมายความว่าการแข่งขันจะยิ่งสูงและค่าความยาก (difficult) ในการขุดก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ทำให้นักขุดรายย่อยสาย Solo ที่ไม่ได้รวมกลุ่ม ขุดกับคนอื่นจำเป็นที่จะต้องถอนตัวออกไป เนื่องจากทรัพยากรที่ใช้ไม่คุ้มกับต้นทุนที่เสียไป
ขณะเดียวกันนักเทรดรายย่อยที่จับกลุ่มกันได้ ก็จะทำงานร่วมกันเป็นทีมที่รู้จักกันในชื่อของ Mining pool ที่ถึงแม้จะต้องแบ่งหารรางวัลที่ขุดได้กัน แต่อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการขุดเจอรางวัล
ปัจจุบันมีรายงานว่าต้นทุนเฉลี่ยของการขุด Bitcoin จะอยู่ที่ $106,000 ใกล้เคียงกับสถิติราคาสูงสุดของ Bitcoin และห่างกันแค่เพียง $2,000 เท่านั้น ส่งผลให้นักขุดเปลี่ยนกลยุทธ์มาเป็นการเก็บของและเทขายชุดใหญ่แทน สิ่งนี้หมายความว่าหากไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีพอ หรือ สามารถการันตีผลตอบแทนได้ การขุด Bitcoin จะสร้างความเสียหายมากกว่ารายได้ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าเหมืองขุดบางแห่งได้เริ่มมีการนำทรัพยากรของตนเองไปแปลงให้เป็น AI data center กันบ้างแล้ว
ขุดเหรียญอื่นยังไหวไหม ?
จริงอยู่ว่า การขุดคริปโตไม่จำเป็นที่จะต้องขุด Bitcoin เสมอไป และนักขุดสามารถหันไปหาตัวเลือกที่ดีกว่าได้ เช่น Ethereum Classic ที่เป็นเหรียญยอดนิยมรองลงมา หรือ Dogecoin ที่มีค่าระดับความยากในการขุดน้อยกว่า ทำให้มีโอกาสขุดได้รางวัลมากกว่า Bitcoin แต่ก็ต้องแลกมากับมูลค่าของเหรียญที่ไม่มากเท่า ซึ่งโดยรวมแล้วก็ยังถือว่าน่าสนใจและยังคงสามารถขุดได้คุ้มต้นทุน
ควรขุดคนเดียวหรือขุดเป็นกลุ่ม
ถัดมากับคำถามที่หลายคนสงสัย คือการขุดแบบเดี่ยว (solo mining) ยังสามารถทำได้หรือไม่ คำตอบคือ “ได้” เพียงแต่วิธีนี้ต้องอาศัยโชคและการลงทุนในเครื่องขุดมากกว่าวิธีอื่น แต่ถ้าผลออกมาดีก็เป็นวิธีที่ทำให้ได้กำไรมากที่สุด
ขณะเดียวกันการขุดแบบหมู่ (pool mining) นั้นเป็นวิธีที่นิยมกันมากกว่าเนื่องจากไม่ต้องลงทุนสูงมากสามารถนำทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่แล้วมาแบ่งกันใช้ได้ และถ้าได้รางวัลขึ้นมาก็จะแบ่งตามความเหมาะสมแบบช่วยมากได้มากช่วยน้อยได้น้อย อีกทั้งวิธีนี้ยังมีโอกาสได้รางวัลบ่อยกว่าการขุดคนเดียวอีกด้วย
นอกเหนือจากนี้การขุดแบบ Cloud mining ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน โดยมันจะเป็นการยืมพลังของคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในการขุดทำให้ต้นทุนที่ใช้ถูกกว่าวิธีอื่น แต่ก็แลกมากับความเสี่ยงที่จะถูกหลอกจากโปรเจกต์มิจฉาชีพด้วยเช่นกัน
คำนวณต้นทุนการขุดคริปโตในหน่วยค่าไฟไทยบาท
Bitcoin (BTC)
- อุปกรณ์ ขุด: Antminer S19 XP ปี 2022
- การใช้พลังงาน: 3,010 วัตต์ หรือ 3.01 kWh
- ค่าไฟฟ้าต่อวัน: 3.01 kWh × 24 ชั่วโมง × 4 บาท = 288.96 บาท/วัน
- ค่าไฟฟ้าต่อเดือน: 288.96 บาท × 30 วัน = 8,668.8 บาท/เดือน
- ต้นทุนอุปกรณ์ : ประมาณ 158,500 บาท (มือหนึ่ง)
- รายได้ ณ ปัจจุบันจากรางวัลการขุด / 24 ชั่วโมง : 276 บาท รายได้หลังหักต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 27 บาท
Dogecoin (DOGE)
- อุปกรณ์ขุด: Antminer L7 9,500 ปี 2021
- การใช้พลังงาน: 3425W วัตต์ หรือ 3.425 kWh
- ค่าไฟฟ้าต่อวัน: 3.425 kWh × 24 ชั่วโมง × 4 บาท = 328.8 บาท/วัน
- ค่าไฟฟ้าต่อเดือน: 328.8 บาท × 30 วัน = 9,864 บาท/เดือน
- ต้นทุนอุปกรณ์ : ประมาณ 300,000 บาท (มือหนึ่ง)
- รายได้ ณ ปัจจุบันจากรางวัลการขุด / 24 ชั่วโมง : 852 บาท รายได้หลังหักต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 511 บาท
Ethereum Classic (ETC)
- อุปกรณ์ขุด: การ์ดจอ Nvidia RTX 3060 Ti ปี 2020
- การใช้พลังงาน: 140 วัตต์ หรือ 0.14 kWh
- ค่าไฟฟ้าต่อวัน: 0.14 kWh × 24 ชั่วโมง × 4 บาท = 13.4 บาท/วัน
- ค่าไฟฟ้าต่อเดือน: 19.2 บาท × 30 วัน = 403 บาท/เดือน
- ต้นทุนอุปกรณ์ : ประมาณ 13,000 บาท (มือหนึ่ง)
- รายได้ ณ ปัจจุบันจากรางวัลการขุด / 24 ชั่วโมง : 2.7 บาท รายได้หลังหักต้นทุนค่าไฟฟ้าขาดทุนประมาณ -11 บาท บาท
อย่างไรก็ตามตัวเลขที่ระบุข้างต้น เพียงแค่การประเมินและยกตัวอย่างเครื่องขุดบางรุ่นเท่านั้น ในความจริงรายได้จากการขุดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ราคาเหรียญที่ได้จากการขุดที่อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตลอดเวลา ไปจนถึง ต้นทุนอุปกรณ์เครื่องขุด หรือแม้กระทั่งค่าไฟที่บางเดือนอาจแพงขึ้นหรือลดลง ซึ่งทำให้รายได้จากการขุดเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตลอดเวลา
สรุป
การขุดคริปโตเคอร์เรนซีในปี 2025 ยังคงสามารถขุดได้ แต่การขุดเพื่อที่จะทำกำไรเป็นกอบเป็นกำนั้นอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ หากเมื่อเทียบการเทรดตามปกติ ดังนั้นผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจการขุดควรศึกษาข้อมูลหาเพียบพร้อมก่อนเริ่มการลงทุน