<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ขาดทุนคริปโทฯ 90% จะขายทิ้งเหลือ 10,000 กว่า หรือถือต่อรอวันฟ้าเปิด? “พี่ศรี” มีคำตอบ !

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เรื่องราวสุดสะเทือนใจของนักลงทุนคริปโทฯ รายหนึ่งที่เงินลงทุน 140,000 บาท หดหายเหลือเพียง 10,000 กว่าบาท หรือขาดทุนไปถึง 90% เต็ม ๆ คำถามที่ค้างคาในใจคือ “ควร Cut Loss ตอนนี้ หรือถือต่อรอวันที่เหรียญจะฟื้นกลับมา?” งานนี้ต้องพึ่งกูรูแห่งวงการอย่าง “พี่ศรี” เจ้าของช่องยูทูป “SRISIAM” มาช่วยเปิดมุมมองไขข้อข้องใจ

เมื่อพี่ศรีได้รับฟังเรื่องราวและตัวเลขการขาดทุนอันน่าตกใจ ก็ได้สอบถามถึงราคาที่นักลงทุนรายนี้เคยซื้อไว้ ซึ่งอยู่ที่ $2.5 ต่อเหรียญ แต่ราคาปัจจุบันกลับดิ่งลงเหวมาอยู่ที่ $0.17 เท่านั้น คำถามต่อมาคือ เงินหมื่นที่เหลืออยู่ หากขายออกมาตอนนี้ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตหรือไม่ ซึ่งคำตอบคือ “ไม่”

ที่มา: TradingVeiw

นักลงทุนรายนี้เล่าด้วยความเสียใจว่า ช่วงตลาดกระทิง (Bull run) ที่ผ่านมา เขาตัดสินใจลงทุนในเหรียญ SXP โดยปราศจากความรู้ความเข้าใจใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่ซื้อตามคำแนะนำของเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง

จากนั้น นักลงทุนได้ถามคำถามที่นักเทรดหลายคนสงสัย นั่นคือ “เหรียญนี้สามารถนับ Elliot Wave ได้หรือไม่?” พี่ศรีตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่ได้” เนื่องจาก Elliot Wave เป็นการเก็บสถิติพฤติกรรมของ Market Maker และนักลงทุนรายย่อยในอดีต เพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต 

ดังนั้นเหรียญที่จะสามารถวิเคราะห์ด้วย Elliot Wave ได้นั้น ต้องมีความเป็นที่นิยม (Mass) และมี Market Maker เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจากทรงกราฟของเหรียญนี้ พี่ศรีมองว่าไม่ใช่ลักษณะที่ Market Maker เข้ามาเล่นอย่างแน่นอน

สำหรับทางออกที่พี่ศรีแนะนำให้นักลงทุนรายนี้มีอยู่ 3 แนวทางหลัก โดยแนวทางแรกคือ ให้ขายออกมา ถ้าหากเงินก้อนนี้ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้ แต่ในกรณีของนักลงทุนรายนี้ เงินที่ใช้ลงทุนไม่ได้กระทบต่อชีวิตของเขา ดังนั้นพี่ศรีจึงแนะนำว่าให้ถือไว้ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขายออกมา

งั้นมาดูต่อกัน ข้อสองคือ ลองเพิ่มเงินที่ยอมเสียได้เข้าไปอีกประมาณ 3,000 – 5,000 บาท หรือถ้าแบบบ้าๆ หน่อยก็ 10,000 บาท โดยพี่ศรีเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการเล่นหวย ซึ่งพี่ศรีก็ได้ดูกราฟ SXP แล้วบอกว่า ปกติเขาก็จะพยายามหากราฟทรงนี้ คือกราฟที่มีลักษณะมีการร่วงลงอย่างหนัก แต่ยังมีแรงกระตุกของขึ้นมาตลอดทาง รอวันที่ Market Maker จะกลับมาดันราคาอีกครั้ง

สุดท้ายข้อสาม เป็นไอเดียจากความคิดเห็นของผู้ชมคือ ขายเงินหมื่นที่มีอยู่ แล้วนำไปลงทุนในเหรียญอื่นที่มีโอกาสเติบโตมากกว่าแทน

จะเทรดอยู่รอดและยืนระยะได้อย่างไร? โดยไม่ทิ้งงานประจำ

อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจในการปรึกษากับพี่ศรีครั้งนี้ เป็นคำถามจาก “คุณไฟต์” นักเทรดที่มีประสบการณ์กว่า 3 ปี ซึ่งต้องการคำแนะนำในการเทรดให้สามารถยืนระยะได้ยาวนาน โดยที่ยังสามารถทำงานประจำควบคู่กันไปได้ 

คุณไฟต์เล่าว่า ก่อนที่จะมาใช้กลยุทธ์พื้นฐานเป็นหลักอย่าง Dow Theory, แนวรับแนวต้าน, Trend line, Volume และ Price Action เขาเองก็เคยลองใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Elliot Wave, Fibonacci และ RSI แต่สุดท้ายก็พบว่าความเรียบง่ายนั้นทรงพลังที่สุด ซึ่งเมื่อพี่ศรีได้ดู MyFxbook ของคุณไฟต์แล้ว ก็พบว่าผลลัพธ์นั้นน่าพอใจ มีกำไรอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับเคสของคุณไฟต์ พี่ศรีมองว่าเป็นนักเทรดที่ไม่ใช่มือใหม่อีกต่อไป และกำลังให้ความสำคัญกับการเทรดระยะยาว พี่ศรีได้ให้คำแนะนำว่า การที่จะเทรดให้ยืนระยะได้นั้น สิ่งสำคัญคือการมี “หน้าเทรด” ที่หลากหลายเพียงพอที่จะรองรับทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นขาลง Down Trend, Side Way, Uptrend หรือช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง 

พี่ศรีแนะนำว่าควรมีหน้าเทรดประมาณ 5 ท่า ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในตลาด สำหรับมือใหม่ การมีหน้าเทรดเดียวถือว่าน้อยเกินไป และการเรียนรู้แต่ละหน้าเทรดก็ต้องใช้เวลาพอสมควร กว่าจะเข้าใจและใช้งานได้อย่างชำนาญ