วงการ Ethereum มีอะไรให้ตื่นเต้นกันอีกแล้ว หลังล่าสุดนักวิจัยบล็อกเชนได้กางข้อเสนอ EIP-9698 ไอเดียใหม่ที่ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่าย Ethereum ให้ได้มากถึง 10 เท่า ภายใน 2 ปีนับจากกลางปี 2025
พูดง่าย ๆ ก็คือแผนนี้เพิ่ม Gas Limit ของเครือข่ายจากระดับปัจจุบันที่ 36 ล้าน ขยับขึ้นเรื่อย ๆ จนทะลุไปถึง 3.6 พันล้าน ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน Ethereum จะรองรับธุรกรรมได้ประมาณ 2,000 รายการต่อวินาที จากที่ตอนนี้ทำได้แค่ 20 รายการต่อวินาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสังเกตว่าหาก Gas Limit ถูกเพิ่มเร็วเกินไป อุปกรณ์ node ที่ไม่ได้อัปเกรด หรือ node ที่ประสิทธิภาพต่ำ อาจรับโหลดไม่ไหว ทำให้เครือข่ายเสี่ยงช้าลง หรือเสี่ยงโดนโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน แถมเวลาส่งบล็อกใหม่ ๆ ไปยังโหนดต่าง ๆ อาจกินเวลานานขึ้นด้วย
เพราะงั้นแผนนี้เลยวางแบบ ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นทีละนิด ตามกำหนดการแน่นอน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีเวลาปรับตัว และป้องกันไม่ให้ระบบพังเองกลางทาง
ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากแผน EIP-9698 คือ การทำธุรกรรมจะเร็วและลื่นขึ้นอย่างมาก ไม่ต้องเสียเวลารอคิวยาวเหยียดเหมือนเดิม อีกทั้งค่าธรรมเนียม (Gas Fee) ก็มีแนวโน้มลดลง เพราะพื้นที่ในบล็อกเพิ่มขึ้น ไม่ต้องแย่งกันเหมือนแต่ก่อน ส่งผลให้การใช้งาน DeFi, NFT, เกม และแอปพลิเคชัน dApps ต่าง ๆ บน Ethereum เป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งกว่าที่เคย
นอกจากแผนการเพิ่ม Gas Limit แล้ว แนวทางพัฒนา Ethereum ยังเดินคู่ไปกับการอัปเกรดสำคัญอื่น ๆ อีก เช่น Pectra Upgrade ที่มีกำหนดเปิดใช้งานในเดือนพฤษภาคม 2025 ซึ่งจะเน้นพัฒนาประสิทธิภาพในหลายด้าน และ Fusaka Hard Fork ที่วางแผนไว้ช่วงปลายปี 2025 แม้ตอนนี้จะยังไม่มีรายละเอียดออกมามากนัก แต่คาดว่าจะเน้นไปที่การเสริมความปลอดภัยและการปรับโครงสร้างบางส่วนของเครือข่ายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ก็ต้องลุ้นกันว่า ทั้งทีมพัฒนาหลักและชุมชนจะสามารถเดินหน้าแผนนี้ได้ราบรื่นแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ คือ ถ้า Ethereum เร่งสปีดสำเร็จ โลกคริปโตน่าจะได้เห็นเกมเปลี่ยนอีกครั้งอย่างแน่นอน
ที่มา: cointrackdaily