ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่วิทยาลัยชุมชน Macomb ในรัฐมิชิแกน ฉลองครบรอบ 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง โดยระบุว่าเป็น “100 วันที่ดีที่สุดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในประวัติศาสตร์” พร้อมย้ำผลงานด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมือง และโจมตีฝ่ายการเมืองตรงข้าม
ทรัมป์ยังกล่าวถึงนโยบายภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ที่หวังดึงการผลิตกลับสหรัฐฯ แม้นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าอาจทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น โดยเขาเพิ่งลงนามคำสั่งผ่อนปรนภาษีนำเข้าบางส่วน
แม้คะแนนนิยมลดลง ทรัมป์ยังเน้นความสำเร็จด้านการควบคุมชายแดน โดยอ้างว่า “สถานการณ์ชายแดนวันนี้ต่างจากเมื่อ 6 เดือนก่อนอย่างสิ้นเชิง”
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าศาลกำลังขัดขวางการดำเนินนโยบายเนรเทศและควบคุมชายแดน โดยระบุว่า “ศาลทำให้เราทำงานลำบาก” พร้อมชี้ว่ารัฐบาลของเขาได้เพิ่มการจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและสมาชิกแก๊ง
ทรัมป์กล่าวว่า “เราพยายามเพิ่มตัวเลข (การจับกุม) แต่ศาลก็ขัดขวาง พอจะเชื่อได้ไหม?” พร้อมย้ำว่าการควบคุมคนเข้าเมืองเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาชนะเลือกตั้ง และตำหนิว่าศาลกำลังลดความสำคัญของประเด็นนี้
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์คุยว่า ผู้นำต่างชาติหลายคนกำลังเดินทางมาเจรจาเรื่องภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ หลังจากเขาประกาศใช้นโยบายเรียกเก็บภาษีหลายรายการ
ทรัมป์ชี้ว่า “ตอนนี้สหรัฐฯ ได้รับความเคารพจากทั่วโลก” พร้อมอ้างว่าผู้นำจากหลายประเทศ เช่น อินเดีย ฝรั่งเศส สเปน และจีน เดินทางมาขอเจรจาการค้ากับเขา โดยบอกว่า “เราจะทำข้อตกลงก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้”
อีกทั้งทรัมป์ยังกล่าวว่าเงินเฟ้อลดลง แต่ตำหนิประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Jerome Powell) ว่า “ทำงานได้ไม่ดี” เพราะไม่ยอมลดดอกเบี้ยเร็วกว่านี้ พร้อมเตือนว่าภาษีสินค้านำเข้าอาจทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น
เขายังอวดผลปรับลดงบของรัฐบาล เช่น การลดงบ USAID และการสั่งให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำงานที่ออฟฟิศ โดยเย้ยว่า “ไม่มีใครทำงานจากบ้านจริงจังหรอก”
นอกจากนี้ทรัมป์กล่าวว่าเขายกเลิกนโยบายด้าน “ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม” พร้อมประกาศว่า “รัฐบาลกลางยึดหลักว่ามีเพียงสองเพศคือชายและหญิง” และ “ห้ามผู้ชายแข่งในกีฬาหญิง” แม้อำนาจบางอย่างของเขาจะไม่ครอบคลุมถึงภาคเอกชนหรือท้องถิ่น
แม้พรรครีพับลิกันกำลังหาทางจ่ายงบหลังลดภาษี ทรัมป์ย้ำว่าเขาจะไม่ตัด Medicare, Social Security หรือ Medicaid แต่จะตัดเฉพาะ “การโกงและการทุจริต” เพื่อให้ความช่วยเหลือยังถึงผู้เปราะบาง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีรายได้น้อย และผู้พิการ
ทั้งนี้ประธานาธิบดีทรัมป์เน้นผลงานหลัก ได้แก่ การเนรเทศผู้อพยพจำนวนมาก, การลดงบรัฐบาล, และการเปลี่ยนแปลงภาษีการค้าระหว่างประเทศ แต่ทั้งหมดถูกท้าทายด้วยคดีความมากมาย ทั้งจากเจ้าหน้าที่ที่ถูกปลด, ผู้อพยพ, และนักธุรกิจที่คัดค้านภาษีนำเข้า
รัฐบาลชูว่าเงินเฟ้อลดลง ราคาน้ำมันและของใช้ลดลง โดยกระทรวง Government Efficiency ซึ่งมีอีลอน มัสก์เป็นผู้นำไม่เป็นทางการ อ้างว่ากำลังปราบปรามการทุจริตและยกเลิกสัญญา DEI ที่เลือกปฏิบัติ แม้ยังห่างจากเป้าลดงบ $2 ล้านล้าน
สำหรับด้านชายแดน ทรัมป์อ้างว่าการควบคุมเข้มกว่าทุกยุค มีการเนรเทศผู้กระทำผิดรุนแรง แต่การส่งตัวผู้อพยพไปคุกในเอลซัลวาดอร์โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม และความพยายามยกเลิกสิทธิถือสัญชาติที่ดินเกิด กำลังเผชิญการฟ้องร้อง
สำหรับด้านการค้า ทรัมป์บอกว่าเจรจาสำเร็จ 200 ข้อตกลง แต่ไม่เปิดเผยชื่อประเทศ ขณะที่ประชาชนกังวลเรื่องราคาสินค้าจะสูงขึ้นเพราะภาษีนำเข้า
สำหรับในต่างประเทศ โฆษกรัฐบาลบอกว่า สหรัฐฯ เข้าใกล้ข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนมากขึ้น แม้ทรัมป์เคยพูดว่าจะ “จบสงครามก่อนเข้ารับตำแหน่ง” ก่อนที่ภายหลังบอกว่ามันเป็นเพียงการ”ล้อเล่น” พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์เป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งที่สุดของอิสราเอล และพาผู้ถูกคุมขังผิดกฎหมายกลับบ้านได้กว่า 75 คนทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของทรัมป์ในการเร่งสร้างแรงสนับสนุนในรัฐสมรภูมิอย่างมิชิแกน ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ยังเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความผันผวน ซึ่งยิ่งตอกย้ำความจำเป็นของสินทรัพย์ที่ปลอดจากระบบศูนย์กลางอย่าง Bitcoin ที่กำลังถูกจับตามองว่าจะสามารถทะยานสู่แนวต้านสำคัญที่ 100,000 ดอลลาร์ได้ในเร็ว ๆ นี้
แม้ว่าในเวทีนี้ทรัมป์จะไม่ได้กล่าวถึงคริปโตเคอร์เรนซีอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่ารัฐบาลของเขามีท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้นต่ออุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ในช่วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง
- ที่มา: cbsnews
- ภาพ : Al Jazeera