ผู้ว่าการรัฐแอริโซนา Katie Hobbs ได้ปัดตกกฎหมายคริปโต 3 ฉบับหลักที่มีเป้าหมายเพื่อขยายบทบาทของรัฐในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เธอได้คว่ำร่าง Senate Bill 1373 ซึ่งเสนอจัดตั้งกองทุน Digital Assets Strategic Reserve Fund ที่จะเปิดทางให้รัฐถือครองคริปโตจากการยึดทรัพย์หรือจัดสรรโดยรัฐสภา โดย Hobbs ให้เหตุผลว่า “ความผันผวนของตลาดคริปโตยังไม่เหมาะสมกับการนำเงินกองกลางของรัฐมาใช้ลงทุน” ทั้งนี้เธอระบุว่าได้เซ็นอนุมัติกฎหมายอื่นที่เปิดโอกาสให้รัฐใช้งานคริปโตได้ โดยไม่กระทบเงินทุนของรัฐไปแล้วก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 3 พฤษภาคม Hobbs ก็ได้ปัดตก Senate Bill 1025 ซึ่งเป็นร่าง “Arizona Strategic Bitcoin Reserve Act” ที่เสนอให้รัฐสามารถนำเงินจากคลังและกองทุนเกษียณสูงสุด 10% ไปลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ นอกจากนี้เธอยังคว่ำ Senate Bill 1024 ที่เสนอให้รัฐรับชำระค่าภาษี ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมด้วยคริปโตผ่านผู้ให้บริการที่ได้รับการอนุมัติ แม้ร่างนี้จะออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยตรง แต่ Hobbs ยังคงมองว่ามี “ความเสี่ยงมากเกินไป”

แม้จะปฏิเสธร่างกฎหมายด้านการลงทุน แต่ Hobbs ก็ยังเปิดรับการใช้คริปโตในบางด้าน โดยในวันเดียวกันเธอได้ลงนาม House Bill 2387 ซึ่งเป็นร่างกฎหมายใหม่ที่ควบคุมการให้บริการของตู้ ATM Bitcoin เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยกำหนดให้มีคำเตือนเรื่องการหลอกลวงหลายภาษา, ผู้ใช้ต้องยืนยันความเข้าใจก่อนทำรายการ, และผู้ให้บริการต้องออกใบเสร็จพร้อมแสดงรายละเอียดค่าธรรมเนียม ช่องทางติดต่อ และนโยบายคืนเงิน กฎหมายยังจำกัดวงเงิน $2,000 ต่อวันสำหรับผู้ใช้ใหม่ และ $10,500 ต่อวันสำหรับผู้ใช้ที่ใช้งานเกิน 10 วัน อีกทั้งยังบังคับให้มีเบอร์ติดต่อฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงติดบนเครื่อง และหากผู้ใช้ใหม่ถูกหลอกลวงโดยมีหลักฐานภายใน 30 วัน สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวนรวมค่าธรรมเนียม
สุดท้าย Hobbs ยังได้ลงนามใน House Bill 2749 ที่อัปเดตกฎหมายทรัพย์สินที่ไม่มีผู้อ้างสิทธิ์ โดยระบุให้รัฐสามารถเก็บรักษาคริปโตที่ไม่มีเจ้าของไว้ในรูปแบบดิจิทัลเดิม แทนที่จะต้องแปลงเป็นเงินดอลลาร์ทันที ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้เธอจะระมัดระวังในด้านการลงทุน แต่ก็ยังไม่ปิดกั้นการนำคริปโตมาใช้งานในระบบของรัฐโดยตรง
ที่มา: cointelegraph