ในขณะที่ราคา Bitcoin กำลังพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง โดยล่าสุดแตะระดับ 104,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ใกล้ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง แต่กลับพบว่า “กระแสความสนใจจากนักลงทุนรายย่อย” ค่อนข้างเงียบผิดปกติ
ข้อมูลจาก Google Trends ชี้ให้เห็นว่า การค้นหาคำว่า “Bitcoin” อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่แอปซื้อขายคริปโตชื่อดังอย่าง Coinbase ก็หล่นไปอยู่อันดับที่ 15 ในหมวดการเงินของ App Store สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับช่วงเดือนมิถุนายนปีก่อน ที่ราคาของ Bitcoin ยังติดอยู่แถว ๆ 66,000 ดอลลาร์ และยังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 73,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ

แนวโน้มการค้นหา Bitcoin แหล่งที่มา: Google

การจัดอันดับแอป Coinbase ใน App Store ของสหรัฐอเมริกา – การเงิน แหล่งที่มา: TheBlock
ข้อมูลจากบริษัท River ระบุว่า ในปี 2025 นักลงทุนรายย่อยได้เทขาย Bitcoin ออกไปมากถึง 247,000 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 23,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ฝั่งนักลงทุนสถาบันกลับเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเดินหน้าซื้อสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง
Strategy เพียงบริษัทเดียวถือครอง Bitcoin คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 77% ของจำนวน Bitcoin ที่บริษัททั้งหมดในตลาดเข้าซื้อเพิ่มในปีนี้ รวมแล้วกว่า 157,000 BTC

ที่มา : X/River
ในอดีต นักลงทุนรายย่อยมักจะเริ่มกลับเข้าสู่ตลาด เมื่อราคา Bitcoin พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ (All-Time High) หรือหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลายเดือน ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้มักนำไปสู่การ “ซื้อบนยอดดอย” เพราะเข้าซื้อหลังจากราคาปรับขึ้นไปมากแล้ว
ตัวอย่างชัดเจนเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 เมื่อความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปพุ่งขึ้นทันที หลังราคา Bitcoin ทะลุสถิติสูงสุดเดิมที่ 73,757 ดอลลาร์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน และยังทะยานต่อจนแตะระดับ 107,000 ดอลลาร์ภายในกลางเดือนธันวาคม โดยนักเทรดรายย่อยจำนวนมากเพิ่งเริ่มเข้าซื้อในช่วงนั้น ทั้งที่ราคามีแรงซื้อสะสมตั้งแต่ระดับ 67,000 ดอลลาร์

ประสิทธิภาพของ Bitcoin/USD ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่มา: TradingView / Cointelegraph
ในช่วงที่ราคา Bitcoin ทะลุระดับ 68,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดปิดรายวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 การค้นหาคำว่า “Bitcoin” บน Google ก็พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นราคา Bitcoin ก็เข้าสู่ช่วงผันผวน และแทบไม่สามารถยืนเหนือระดับ 70,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคงในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ปัจจุบันราคายังห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลอยู่เพียงประมาณ 5.5% แต่ความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยกลับยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ข้อมูลยังชี้ว่าเกิดแรงเทขายจากกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากระแสเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไปยังคงไหลเข้าช้ากว่าปกติ
นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า ความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยจะกลับมาอย่างเด่นชัด ก็ต่อเมื่อราคา Bitcoin สามารถทะลุแนวต้านเดิม หรือสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 109,350 ดอลลาร์ และคาดว่าแรงซื้อจากกลุ่มนี้จะเริ่มไหลกลับเข้ามาภายในเวลาราว 1 สัปดาห์หลังจากนั้น
ที่มา : cointelegraph