<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ร่วมก่อตั้ง MetaMask บอกใบ้ ! อาจมีเหรียญ โทเค็นของตัวเองเปิดตัวในอนาคต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แดน ฟินเลย์ (Dan Finlay) ผู้ร่วมก่อตั้ง MetaMask ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านพอดแคสต์ “Crypto Beat” ของ The Block เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการเปิดตัวเหรียญของ MetaMask 

Dan Finlay ตอบสั้น ๆ พร้อมรอยยิ้มว่า “ก็อาจจะ” โดยระบุว่า หากมีการเปิดตัวเหรียญจริง ผู้ใช้จะเห็นประกาศ อย่างเป็นทางการได้ในตัวแอปเลย ซึ่งไม่ต้องไปเสี่ยงกดลิงก์จากโซเชียล เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานตกเป็นเหยื่อฟิชชิ่งหรือกลโกงต่าง ๆ

แม้ยังไม่มีแผนเปิดตัวโทเค็นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ Dan Finlay ก็ชี้ว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบในยุคของรัฐบาลทรัมป์ ที่เปิดกว้างต่อคริปโตมากขึ้น ก็อาจช่วยเปิดประตูให้มีการออกโทเค็นรูปแบบใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งหวังว่า นี่จะเป็นโอกาสให้ผู้สร้างได้ทดลองสิ่งใหม่ ๆ และสร้างแนวปฏิบัติใหม่ให้วงการ

MetaMask เคยพูดถึงการออกโทเค็นมาตั้งแต่ปี 2021 โดยใช้ชื่อชั่วคราวว่า “MASK” ซึ่งในตอนนั้น ทีมพัฒนาเคยพูดถึงแนวคิดเรื่อง “การกระจายความเป็นเจ้าของ” ผ่านการออกโทเค็น 

และต่อมา Joseph Lubin ซีอีโอของ ConsenSys (บริษัทแม่ของ MetaMask) ก็เคยทวีตข้อความแซวว่า “Wen $MASK?” จนกลายเป็นกระแสในชุมชนคริปโตช่วงนั้น

ในปี 2022 Joseph Lubin ก็ออกมายืนยันอีกครั้งว่า แผนของ MetaMask คือการสร้าง DAO และเปิดตัวเหรียญ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างรายได้ แต่เป็นกลยุทธ์เพื่อการกระจายศูนย์อำนาจแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมย้ำว่าโครงการนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อการเก็งกำไรจากการแจกเหรียญฟรี หรือการฟาร์มแอร์ดรอปเกินขอบเขต โดยมีมาตรการป้องกันนักล่าแอร์ดรอปอย่างเข้มงวด

Joseph Lubin ยังกล่าวเสริมว่า แม้ภายใต้การนำของ Gary Gensler อดีตประธาน SEC หน่วยงานจะยังยึดแนวทางเดิมที่มองว่า โทเค็นส่วนใหญ่นั้นเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ แต่ Joseph Lubinก็เชื่อว่ายังมี “พื้นที่สีเทา” ที่บางโปรเจกต์สามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่กำลังเปลี่ยนแปลงและเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ

Dan Finlay ย้ำว่า MetaMask จะไม่มีการส่งข้อความ , อีเมล หรือโทรไปคุณ หากมีการเปิดตัวจริง ๆ ทุกอย่างจะถูกประกาศผ่านแอปกระเป๋าเงิน หรือไม่ก็บนเว็บไซต์ทางการ 

MetaMask ถือเป็นกระเป๋าเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2024 มีผู้ใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 30 ล้านคน และเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ภายใต้บริษัทพัฒนา Ethereum อย่าง ConsenSys ซึ่งมีพนักงานกว่า 500 คน