ย้อนกลับไปในวัฏจักรคริปโตช่วงปี 2021 กระแส NFT กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ด้วยความต้องการในตลาดที่สูง ทำให้ศิลปินหลายรายสามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล เช่นเดียวกับ Jonathan Mann นักดนตรีผู้ขายผลงานเพลงในรูปแบบ NFT ได้มากถึง 3,700 บทเพลง คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 98 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม รายได้ก้อนนี้กลับไม่สามารถอยู่กับเขาได้นาน เนื่องจาก Mann เลือกเก็บเงินทั้งหมดไว้ในรูปของเหรียญ Ethereum โดยหวังว่าราคาจะพุ่งขึ้นอีกในอนาคต
แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อตลาดเริ่มกลับตัวเป็นขาลง จนส่งผลทำให้ Ethereum ที่เขาถือในมือถูกลดทอนมูลค่าลงอย่างต่อเนื่อง และในขณะที่ Mann กำลังกลุ้มใจอยู่ว่าจะอดทนถือต่อหรือรีบเทขายดี ฝันร้ายก็ได้มาเยือนถึงหน้าบ้านของเขา
Mann ระบุว่า ทางกรมสรรพากรสหรัฐฯ ได้แจ้งเตือนว่า เขาจำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษีเงินได้ สืบเนื่องมาจากกำไรที่เกิดขึ้นจากการขายคอลเลกชัน NFT โดยอัตราภาษีที่จ่ายจะอ้างอิงจากจำนวนเงินที่เขาได้มาไม่ใช่อิงตามมูลค่าของ Ethereum ที่เขายังคงถืออยู่ในมือ สิ่งนี้หมายความว่านอกจากกำไรที่ได้มาจะหดหายไปแล้ว Mann ยังต้องจ่ายภาษีเป็นเงินเกือบ 1.1 ล้านดอลลาร์
เมื่อทราบว่าตัวเขาจำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษี Mann จึงพยายามดิ้นรนหาเงินเพิ่มด้วยการกู้ยืมเงินจากแพลตฟอร์ม Aave โดยนำ Ethereum ที่มีอยู่ไปค้ำประกัน แต่ไม่นานนักตลาดคริปโตก็ได้เกิดวิกฤต Terra-Luna จนทำให้ Ethereum กว่า 300 ETH ที่เขาค้ำเอาไว้ถูกล้างออกไปในพริบตา และทำให้เขาแทบจะหมดตัว
อย่างไรก็ตามในความโชคร้ายยังคงมีความโชคดีเหลืออยู่บ้าง เพราะในขณะที่เขากำลังจะถูกยึดบ้าน และสูญเงินทั้งหมดในบัญชีเงินเกษียณ เขาก็ได้เหลือบไปเห็น Autoglyph NFT สุดหายากที่เขาเคยซื้อเอาไว้ในสมัยที่คริปโตเพิ่งเป็นที่รู้จัก
Mann ตัดสินใจขายมันเพื่อกู้วิกฤต ซึ่งก็มีคนยื่นข้อเสนอมาให้เขาในราคา $1.1 ล้าน และเขาก็ตอบตกลงเพื่อนำเงินที่ได้มาจ่ายภาษีที่เขาค้างเอาไว้ และเนื่องจากการขาดทุนของเขาใน Aave ทำให้การซื้อขายครั้งนี้ไม่ถูกนับเป็นเงินได้ กลายเป็นว่าจากเดิมที่เขาทำกำไรได้ 3 ล้าน กลับเกือบต้องติดหนี้ภาษีกว่า $1.1 ล้าน แบบไม่ทันตั้งตัว
เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความน่ากลัวของความไม่แน่นอนในตลาดคริปโต ซึ่งหากนักลงทุนไม่ได้มีการวางแผนให้รอบคอบ นอกจากจะสูญเสียกำไรแล้วยังอาจจะสร้างหนี้ขึ้นมาให้อีก ดังนั้นหากผู้ใดสนใจที่จะลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมและยอมรับความเสี่ยงให้ได้ก่อนเริ่มการลงทุน
ที่มา : Cointelegraph