แพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโต Kraken ได้เปิดตัว “Krak” แอปชำระเงินระดับโลกที่รองรับทั้งสกุลเงินทั่วไปและคริปโต โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการแข่งขันกับแอปยักษ์ใหญ่อย่าง Venmo, PayPal และ Cash App
Krak เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถโอนเงินในประเทศได้ฟรี และสามารถทำธุรกรรมระหว่างประเทศแบบไม่เสียค่าธรรมเนียม มากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีรางวัลตอบแทนสูงสุดถึง 4.1% สำหรับผู้ที่ถือครอง Global Dollar (USDG) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ Peg กับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ออกโดย Paxos และยังมีรางวัลจากการ Staking สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ สูงสุดถึง 10% ตามรายงานของบริษัท
การเปิดตัว Krak เกิดขึ้นในช่วงที่ Kraken กำลังอยู่ในเฟสขยายตัวครั้งใหญ่ โดยทางบริษัทกำลังเดินหน้ากลยุทธ์แบบ “multi-asset” ที่ไม่จำกัดแค่คริปโต โดยมีแผนจะนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นในอนาคต
ก่อนหน้านี้ Kraken ก็เพิ่งประกาศเปิดตัวบริการซื้อขายหุ้นแบบโทเค็นสำหรับลูกค้านอกสหรัฐฯ และเข้าซื้อแพลตฟอร์มซื้อขายฟิวเจอร์ส NinjaTrader ของสหรัฐฯ ด้วยมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
Krak ยังมีฟีเจอร์เด็ด ที่เตรียมเปิดให้ใช้ในอนาคต เช่น “Crypto Credit Line” ที่ให้ผู้ใช้กู้ยืมเงิน โดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกัน รวมถึง บัตร Krak Card ทั้งแบบจริงและแบบดิจิทัล
นอกจากนี้ ยังมีระบบ “Kraktags” ที่เป็นชื่อผู้ใช้งานแบบอ่านง่าย เช่น @yourname.krak คล้ายกับ Ethereum Name Service (ENS) ซึ่งจะเข้ามาแทนที่ รหัสที่อยู่กระเป๋าแบบยาวๆ ที่อ่านยาก เพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นเรื่องง่ายขึ้น
Arjun Sethi ซีอีโอร่วมของ Kraken กล่าวว่า “เราออกแบบ Krak บนโครงสร้างพื้นฐานแบบ Permissionless ที่ใช้ Blockchain สาธารณะในการประมวลผลธุรกรรมทั่วโลกแบบเรียลไทม์ สินทรัพย์สามารถพกพา ย้ายข้ามเครือข่ายได้ และผู้ใช้งานควบคุมเอง ไม่มีตัวกลางที่มาทำให้ขั้นตอนซับซ้อนหรือเพิ่มต้นทุน ซึ่งทำให้เรามีความเร็วในการโอนที่สูงกว่า ค่าธรรมเนียมน้อยกว่า และเข้าถึงได้มากกว่า”
Kraken ระบุว่า แหล่งรายได้หลักของ Krak จะมาจากค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเมื่อลูกค้าแปลงสินทรัพย์หรือสกุลเงินหนึ่งไปเป็นอีกอัน โดยในแอปขณะนี้รองรับมากกว่า 300 สกุลเงินทั้งคริปโตและสกุลเงินทั่วไป
Krak กำลังวางตำแหน่งตัวเองเป็น “แอปชำระเงินสายคริปโต” ที่แท้จริง ท่ามกลางคู่แข่งอย่าง Venmo และ PayPal โดย Venmo เริ่มเปิดให้เทรดคริปโตตั้งแต่ปี 2021 และ PayPal เปิดให้เทรดคริปโตตั้งแต่ปี 2020
โดยทั้งสองแพลตฟอร์มก็ได้ผสานระบบ ENS เพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนคริปโตเช่นกัน ที่สำคัญ PayPal ยังเปิดตัว Stablecoin ของตัวเองในชื่อ PYUSD เมื่อปี 2023 อีกด้วย
ที่มา : theblock