<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ศึกเดือด! Jim Chanos ชน Michael Saylor ปมกลยุทธ์ถือ Bitcoin บนงบดุล

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หนึ่งในประเด็นร้อนแรงที่สุดบนวอลล์สตรีทเวลานี้ คือการปะทะกันระหว่างนักขายชอร์ตระดับตำนาน Jim Chanos และ Michael Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy (ปัจจุบันใช้ชื่อว่า “Strategy”) ผู้นำกลยุทธ์ถือ Bitcoin บนงบดุลรายใหญ่ที่สุดในโลก Chanos ซึ่งเคยมีชื่อเสียงจากการทำนายการล่มสลายของ Enron ในปี 2001 ออกมาโจมตี Saylor อย่างต่อเนื่องผ่านรายการพอดแคสต์ “Odd Lots” ของ Bloomberg โดยระบุว่ากลยุทธ์ของ Saylor “ไม่มีเหตุผลรองรับ” และกล่าวว่าหุ้นของบริษัทไม่ควรมีมูลค่าสูงกว่าตัว Bitcoin ที่ถือไว้

Saylor ใช้บริษัทซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจดั้งเดิมของเขา กลายเป็น “ยักษ์ใหญ่ Bitcoin” โดยการออกหุ้นและกู้เงินเพื่อนำมาซื้อ Bitcoin จนถึงปัจจุบันถือครองมากถึง 597,325 BTC หรือราว 64,000 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นกว่า 210% ในรอบปีที่ผ่านมา สูงกว่า Bitcoin เองที่ขึ้นมา 80% และเหนือกว่า S&P 500 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 13% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ภาพจาก yahoo!finance

Chanos โต้แย้งว่านักลงทุนควรซื้อ Bitcoin โดยตรง แทนที่จะลงทุนในบริษัทที่ทำหน้าที่ซื้อ Bitcoin แทน เขามองว่าโมเดลนี้เป็นเพียง “ศัพท์การเงินที่ฟังดูดีแต่ไม่มีแก่นสาร” และเรียก Saylor ว่า “นักขายที่เก่ง แต่ก็เป็นแค่นักขาย” ฝั่ง Saylor ไม่ได้นิ่งเฉย โดยเขาให้เหตุผลว่าหุ้นของ Strategy ง่ายต่อการถือครองมากกว่า Bitcoin โดยตรงหรือผ่าน ETF ซึ่งยังมีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ อีกทั้งนักลงทุนยังเชื่อในศักยภาพของบริษัทในการซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมจากจำนวนที่มีจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญในระบบ เขากล่าวไว้ในงานสัมมนาช่วงเดือนพฤษภาคมว่า ถ้าคุณอยากเพิ่มเงิน 10 เท่า ให้ซื้อ Bitcoin ถ้าอยากได้ 100 เท่า ให้ซื้อ Bitcoin ด้วยเงินคนอื่น และถ้าอยากเพิ่ม 1,000 เท่า ให้ซื้อ Bitcoin ด้วยเงินคนอื่น แล้วนำไปใช้เป็นหลักประกันเพื่อซื้อเพิ่มอีก

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เริ่มตั้งข้อสังเกตว่ากลยุทธ์นี้อาจกำลังใกล้ถึงจุดอิ่มตัว Gustavo Gala จาก Monness, Crespi, Hardt & Co เตือนว่าความสนใจจากนักลงทุนฝั่งตราสารหนี้อาจมีขีดจำกัด และบริษัทอาจเผชิญความท้าทายในการระดมทุนรอบใหม่เพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม อีกทั้งยังมีบริษัทจำนวนมากที่เริ่มลอกเลียนแบบแนวทางของ Saylor ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่เชื่อมโยงกับครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ไปจนถึง GameStop ส่งผลให้เกิดการแข่งขันแย่งเม็ดเงินจากนักลงทุนกลุ่มเดียวกัน

แม้จะมีกระแสต้าน แต่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 บริษัทมหาชนทั่วโลกกลับเพิ่มการถือครอง Bitcoin บนงบดุลรวมกันมากกว่า 245,000 BTC ซึ่งมากกว่าปริมาณที่ถือผ่าน ETF รวมทั้งหมด ขณะเดียวกันนักลงทุนที่พยายามเปิดสถานะชอร์ตหุ้นของ Strategy ในเดือนที่ผ่านมา กลับต้องรับผลขาดทุนไปรวมกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก S3 Partners ทั้งนี้ Strategy ยังเผชิญแรงกดดันทางกฎหมาย โดยถูกฟ้องร้องในศาลกลางรัฐเวอร์จิเนียในสองคดีจากนักลงทุนที่กล่าวหาว่าบริษัทบิดเบือนความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคา Bitcoin

ในอีกด้านหนึ่ง Tom Lee ผู้ร่วมก่อตั้ง Fundstrat ก็กลายเป็นผู้เล่นรายล่าสุดที่เข้าร่วมแนวทางการถือครองคริปโตในระดับองค์กร โดยเขาเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทเหมืองคริปโต BitMine Immersion Technologies (BMNR) พร้อมประกาศระดมทุน 250 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนใน Ethereum บนงบดุลในลักษณะเดียวกับที่ Saylor ทำกับ Bitcoin

ที่มา yahoo!finance