<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Cboe-NYSE Arca ยื่นเรื่องถึง SEC ขอ ‘ทางด่วน’ อนุมัติกองทุนคริปโต ETF

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการอนุมัติการไถ่ถอนกองทุนคริปโตในรูปแบบ “In-kind” ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่าง Chicago Board Options Exchange (CBOE) และ NYSE Arca ก็ได้เดินเกมรุกครั้งสำคัญต่อเนื่องทันที ด้วยการยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่จะเข้ามา “ปฏิวัติ” กระบวนการอนุมัติกองทุนคริปโต ETF ไปตลอดกาล

ในคำร้องที่ยื่นต่อ SEC นั้น Cboe ได้เสนอให้มีการสร้างกรอบการทำงานที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์คริปโต ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ก็จะช่วยขจัดขั้นตอนที่ยุ่งยากและยาวนานในปัจจุบันออกไป “ผู้ออกกองทุนจะไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุมัติเป็นการเฉพาะสำหรับแต่ละกองทุนคริปโต ETF อีกต่อไป ตราบใดที่กองทุนนั้นเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้” นาย Nate Geraci นักวิเคราะห์ ETF อธิบาย ภายใต้กฎระเบียบปัจจุบัน ผู้ให้บริการ Exchange จะต้องยื่นเอกสาร 19b-4 สำหรับกองทุนคริปโต ETF ใหม่ทุกกอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลาในการตรวจสอบนาน การยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงกฎในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการขอสร้าง “ทางด่วน” ที่จะช่วยให้กองทุนคริปโตใหม่ๆ สามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บรรยากาศด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ กำลังเป็นใจต่ออุตสาหกรรมคริปโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยในวันเดียวกัน คณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของทำเนียบขาวก็ได้เสนอข้อเรียกร้องใหม่ๆ เพื่อปรับกฎระเบียบของคริปโตให้สอดคล้องกับการเงินแบบดั้งเดิม โดยได้เรียกร้องให้ SEC และ CFTC เร่งสร้างความชัดเจนในกฎเกณฑ์การซื้อขายและการดูแลรักษาสินทรัพย์ และขจัด “ความล่าช้าทางราชการ” ที่เป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม

การยื่นเรื่องของ Cboe และ NYSE Arca จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงทางเทคนิค แต่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังถูกผนวกรวมเข้ากับกรอบการทำงานของการเงินกระแสหลักอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนแปลงท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลและการผลักดันกฎหมายอย่างจริงจังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมการเงินในสหรัฐอเมริกาไปตลอดกาล

ที่มา: cointelegraph