Bitcoin (BTC) ยังคงย่ำอยู่ใกล้ระดับ $114,200 หลังจากปรับตัวลงอย่างแรงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงเกือบ $6,000 จากจุดสูงสุดในช่วงสั้น ๆ และกวาดล้างสถานะ Long ไปมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ตลาดคริปโตโดยรวมเข้าสู่ภาวะ “Risk-off” และความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงอยู่ในระดับเปราะบาง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในวงกว้าง รวมถึงการไหลออกของ ETF และความตึงเครียดทางการค้าระลอกใหม่ที่เกิดจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กลายเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้ราคาทรัพย์สินเสี่ยงรวมถึงคริปโตไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่
แม้ Bitcoin จะยังไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ $115,000 ได้อีกครั้ง แต่ Ethereum (ETH) กลับแสดงความแข็งแกร่ง โดยปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ $3,550 กลับมาอยู่ที่ระดับใกล้ $3,650 ความสนใจจากสถาบันการเงินยังคงหนุนราคา ETH อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลยุทธ์ด้านคลังทุน (treasury), การเตรียม IPO และการล่าหา “MicroStrategy ถัดไป” ที่กำลังซื้อคริปโตเก็บไว้ในงบดุล
ในทางกลับกัน ตลาด altcoin กลับสะดุด โดยเฉพาะ Solana (SOL) ที่ร่วงลงเกือบ 20% จากระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน และ XRP ที่แทบไม่มีแรงขยับ แม้ Bitcoin และ Ethereum จะทรงตัวได้ก็ตาม ความหวังต่อการเข้าสู่ช่วง “altseason” ที่เคยถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงก่อนหน้า เริ่มจางหายลงเมื่อเห็นสัญญาณว่านักลงทุนส่วนใหญ่กำลังปรับพอร์ตกลับเข้าสู่เหรียญหลัก หรือเลือกถอนเงินออกจากตลาดไปก่อน
ปัจจัยกดดันอีกประการหนึ่งคือข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งยิ่งซ้ำเติมบรรยากาศการลงทุนให้นิ่งเฉา ส่งผลให้เกิดกระแสไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย และคริปโตก็โดนลูกหลงไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อ ETF สำหรับ Bitcoin และ Ethereum มียอดไหลออกสูงในรอบปี — วันที่ 2 สิงหาคมถือเป็นวันที่มียอดถอนเงินออกจาก Bitcoin spot ETF มากที่สุดเป็นอันดับสองของปี และจาก Ethereum ETF มากที่สุดเป็นอันดับสี่
แม้จะมีแรงขายกดดันตลาด แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่านี่อาจเป็นเพียง “การปรับฐาน” มากกว่าจะเป็นการเทขายตัดขาดทุนแบบ panic จริง ๆ ทาง QCP Capital ระบุว่าโครงสร้างโดยรวมของตลาดยังคงเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณากิจกรรมในตลาดออปชันของ Bitcoin ที่เริ่มคึกคักอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น การวางโพซิชัน Call Options ที่กำหนดราคาหมายไว้ที่ $124,000 ภายในปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงบวกในหมู่นักลงทุนสถาบัน
สิ่งที่นักลงทุนกำลังจับตามองในขณะนี้คือข้อมูลการไหลเข้า-ออกของ ETF หากการไหลออกหยุดลงและปัจจัยมหภาคเริ่มนิ่ง ความผันผวนในช่วงนี้อาจกลายเป็นฐานรองรับสำหรับการเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ แต่หากกระแสถอนทุนยังคงดำเนินต่อไป และความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงยังไม่ฟื้น ตลาดก็อาจต้องเผชิญกับแรงขายรอบใหม่ก่อนจะสร้างฐานได้อย่างมั่นคง
ที่มา: coindesk