Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และผู้ก่อตั้ง ConsenSys ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า เขาเชื่อว่า Ethereum (ETH) อาจสามารถ “แซง” Bitcoin (BTC) ในด้านมูลค่าตลาด (market cap) ได้ภายใน “ปีหน้าหรือราว ๆ นั้น” โดยเฉพาะเมื่อมีแรงขับเคลื่อนจากบริษัทต่าง ๆ ที่เข้ามาสะสม Ethereum เข้ามาเก็บในงบดุลของบริษัท
Lubin ให้เหตุผลว่า ระบบนิเวศของ Ethereum เติบโตในหลายทิศทาง ทั้ง DeFi, NFT, และโครงสร้างพื้นฐานด้าน smart contract ซึ่งเปิดโอกาสให้ ETH มีการใช้งานในวงกว้างกว่า Bitcoin ที่ถูกมองเป็น “แหล่งเก็บมูลค่า” เป็นหลัก
จากมุมมองเชิงตัวเลข หากต้องการให้ ETH มีมูลค่าตลาดแซง BTC ที่ระดับปัจจุบัน ETH จะต้องมีราคาประมาณ $20,000 ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันหลายเท่า แม้จะเป็นเป้าหมายที่ดูท้าทาย แต่หลายฝ่ายชี้ว่าการพัฒนาระบบ Layer 2, การใช้ ETH ในการ stake เพื่อความปลอดภัยของเครือข่าย, และการลดปริมาณ ETH หมุนเวียนในตลาด (ผ่านกลไก burn ของ EIP-1559) อาจช่วยสนับสนุนให้ราคาเติบโตได้อย่างมีนัย
นักวิเคราะห์ตลาดมองว่าปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้เกิด “flippening” คือการที่ Ethereum ได้รับการยอมรับในภาคธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานจริงในภาคการเงินดั้งเดิม (TradFi) และการสนับสนุนจากสถาบันขนาดใหญ่ ซึ่งเทรนด์การสะสม ETH ของ “smart money” และการไหลออกจากกระดานเทรดไปเก็บแบบ cold storage ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ อาจเป็นสัญญาณแรก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
หากสถานการณ์ดำเนินไปตามที่ Lubin คาดการณ์ไว้ การแซง BTC ของ ETH จะไม่เพียงเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์คริปโต แต่ยังอาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด และส่งผลต่อการมองภาพรวมของนักลงทุนต่อ Bitcoin และ Ethereum ในฐานะสินทรัพย์ลงทุนหลักในอนาคต
ที่มา : X

