อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla ได้ออกมาส่งคำเตือนครั้งใหญ่อีกครั้งเกี่ยวกับกองหนี้สินของสหรัฐอเมริกาที่พุ่งทะยานไม่หยุด โดยชี้ว่าหากเทคโนโลยีอย่าง AI และหุ่นยนต์ไม่สามารถเข้ามาแก้ปัญหาหนี้ระดับชาติได้ สหรัฐฯ ก็เตรียม “เจ๊ง” (we’re toast) ได้เลย
“ท้ายที่สุดแล้ว หนี้สินของประเทศเราซึ่งสูงอย่างบ้าคลั่ง… ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมันสูงกว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหมไปแล้ว… และมันก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นถ้า AI และหุ่นยนต์ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ระดับชาติของเราได้ เราก็เจ๊งแน่” มัสก์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่งาน All In Summit
หนี้ 37 ล้านล้านดอลลาร์ วิกฤตที่ ‘แก้ไขไม่ได้’
กองหนี้ของสหรัฐฯ ได้พุ่งสูงถึง 37 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้จ่ายจำนวนมหาศาลในช่วงยุคโควิดและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น “รัฐบาลโดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถแก้ไขได้” มัสก์กล่าวเสริม
คำเตือนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มัสก์ได้ลาออกจากทำเนียบขาวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางความขัดแย้งเรื่องการใช้จ่ายของรัฐบาล และได้ประกาศว่าจะสร้างพรรคการเมืองของตัวเองที่สนับสนุน Bitcoin
‘เงินเฟียตมันสิ้นหวังแล้ว’ ทางออกอยู่ที่ Bitcoin?
ท่าทีของมัสก์สอดคล้องกับมุมมองของเขาที่มีต่อสกุลเงินทั่วไปมาโดยตลอด เมื่อถูกถามว่าพรรคใหม่ของเขาจะยอมรับ Bitcoin หรือไม่ เขาตอบกลับสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “เงินเฟียตมันสิ้นหวังแล้ว ดังนั้น ใช่” ซึ่งส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นในขณะนั้น ปัจจุบัน Tesla บริษัทของเขาถือครอง Bitcoin ในงบดุลมูลค่าถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
มุมมองนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ไบรอัน อาร์มสตรอง (Brian Armstrong) ซีอีโอของ Coinbase ที่มัสก์เคยแชร์ความเห็นว่า “หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ทำให้รัฐสภารับผิดชอบในการลดการขาดดุล และเริ่มจ่ายหนี้สิน Bitcoin ก็จะเข้ามาแทนที่ในฐานะสกุลเงินสำรอง”
ตลาดขานรับ เงินเฟ้ออ่อนตัว-ทองคำ All-Time High-Bitcoin จ่อตาม
น่าขันที่ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่ดูย่ำแย่กลับกลายเป็นข่าวดีสำหรับสินทรัพย์ทางเลือก ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ออกมาตรงตามคาด ได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน
การคาดการณ์นี้ได้ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลเมื่อปรับตามอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่เคยถูกทำลายมาตั้งแต่ปี 1980 และแม้ว่า Bitcoin จะยังคงอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิมประมาณ 10% แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า Bitcoin มี “โอกาสทำกำไรที่ไม่สมมาตรมากที่สุดในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้”
“สถานการณ์ปัจจุบันของเราคือทั้งทองคำและดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ต่างก็อยู่ในระดับสูงสุดตลอดกาล ก็เพราะว่าเครื่องพิมพ์เงินกำลังจะถูกเปิดกลับมาทำงานอีกครั้ง” ลาร์ค เดวิส (Lark Davis) กล่าว ขณะที่ กาดี้ ไชยท์ (Gadi Chait) จาก Xapo Bank ชี้ไปที่เงินทุนที่ไหลเข้า Spot Bitcoin ETF อย่างมหาศาลถึง 757 ล้านดอลลาร์ในวันพุธ ซึ่งเป็นวันที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

