Athena Bitcoin หนึ่งในผู้ให้บริการตู้ ATM Bitcoin รายใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังเผชิญมรสุมทางกฎหมายครั้งใหญ่ เมื่อถูก AML Software ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ ยื่นฟ้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์และวางแผนขโมย “Source Code” ซึ่งเปรียบเสมือน “สมอง” ของตู้ ATM Bitcoin
คำฟ้องดังกล่าวอ้างว่า Athena ได้มีส่วนร่วมในแผนการอันซับซ้อนเพื่อเข้าครอบครองตู้ ATM เกือบ 3,000 เครื่อง พร้อมทั้งซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมาย
เปิดปมขัดแย้ง แผนซับซ้อนหวัง ‘ขโมยสมอง’
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากบริษัทชื่อ SandP Solutions ซึ่งเป็นเจ้าของตู้ ATM Bitcoin จำนวน 2,800 ตู้ ที่ใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ของ AML Software ในการทำงาน แต่ SandP ประสบปัญหาทางกฎหมายจนไม่สามารถดำเนินกิจการในรัฐโอไฮโอได้
จุดนี้เองที่ จอร์แดน เมิร์ช (Jordan Mirch) ผ่านบริษัทของเขาที่ชื่อว่า Taproot ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ตู้ ATM ทั้งหมดของ SandP ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีการฟ้องร้องแยกเป็นอีกคดีหนึ่งในรัฐอิลลินอยส์
คำฟ้องของ AML Software อ้างว่า แต่เดิม Athena เคยเข้ามาเจรจาขอซื้อซอฟต์แวร์ของพวกเขาอย่างถูกต้อง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ซื้อ หลังจากนั้น เมิร์ช (ผ่านบริษัท Taproot) ได้ว่าจ้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์คนหนึ่งของ AML โดยอ้างว่าเป็นการจ้างในฐานะที่ปรึกษา แต่ AML เชื่อว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือการ “ได้มาซึ่ง Source Code ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ AML อย่างผิดกฎหมาย”
AML กล่าวหาว่า เมิร์ชและ Taproot ได้ทำข้อตกลงลับๆ กับ Athena เพื่อส่งมอบทั้งตู้ ATM จำนวน 2,800 ตู้ และ Source Code ที่ขโมยมาให้กับ Athena โดยเชื่อว่า Athena “รู้อยู่เต็มอก” ว่าซอฟต์แวร์ที่กำลังจะได้รับนั้นเป็นของที่ถูกขโมยมา
มรสุมรอบด้าน ไม่ใช่คดีแรกของ Athena
คดีความเรื่องขโมย Source Code นี้เป็นเพียงปัญหาล่าสุดของ Athena เท่านั้น เพราะในขณะเดียวกัน บริษัทยังถูกฟ้องร้องในอีกคดีหนึ่งจากอัยการสูงสุดของวอชิงตัน ดี.ซี.
ในคดีดังกล่าว อัยการกล่าวหาว่า Athena หากำไรจาก การหลอกลวงผู้สูงอายุ ผ่านตู้ ATM และ คิดค่าธรรมเนียมแอบแฝงสูงถึง 26% จากลูกค้าที่ไม่ทันระวังตัว
ปัญหาทางกฎหมายที่รุมเร้าเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัท โดยราคาหุ้นของ Athena ซึ่งซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ได้ร่วงลงไปแล้วถึง 84% นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ปัญหาใหญ่ที่รอการแก้ไข
ปัญหาการหลอกลวงผ่านตู้ ATM Bitcoin ได้กลายเป็นประเด็นใหญ่ในสหรัฐฯ จนฝ่ายนิติบัญญัติอย่างวุฒิสมาชิก ซินเธีย ลัมมิส (Cynthia Lummis) ได้ประกาศเมื่อวันอังคารว่า เธอกำลังวางแผนที่จะแก้ไขปัญหานี้ผ่านกฎหมายกำกับดูแลโครงสร้างตลาดฉบับใหม่ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้กับผู้บริโภคที่อาจตกเป็นเหยื่อต่อไป
ที่มา: decrypt

