วันนี้ (26 กันยายน) จะกลายเป็นอีกหนึ่งวันที่นักเทรดจะต้องจับตา เนื่องจากเป็นวันหมดอายุสัญญาออปชันของทั้ง Bitcoin และ Ethereum ซึ่งในทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือนจะมีมูลค่ามหาศาลมากที่สุด และผลกระทบจะเหตุการณ์นี้จะชี้ชะตาว่าตลาดคริปโตจะฟื้นกลับมารับขาขึ้น หรือจบสิ้นแล้วตรงนี้
ข้อมูลเปิดเผยว่าในวันนี้เวลา 15.00 น. สัญญาออปชันของเหรียญทั้งสองกำลังจะหมดอายุลง โดยฝั่งของ Bitcoin คิดเป็นมีมูลค่าสูงถึง $2.26 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกระจุกตัวกันอยู่บนกระดานเทรด Deribit กว่า $1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันด้าน Ethereum ในวันนี้ก็จะมีสัญญาหมดอายุเป็นมูลค่ากว่า $5.12 พันล้าน เช่นเดียวกัน
ปัจจุบันสัญญาออปชันในฝั่ง Call (มองบวก) มีจำนวนเหนือฝั่ง Puts (มองลง) แสดงให้เห็นว่านักเทรดยังคงมีความหวังว่าราคาจะขึ้น ตราบใดก็ตามที่บิทคอยน์ยังคงรักษาระดับราคาได้ที่ $112,000
กลับกัน 81% ของสัญญาฝั่ง put ใน Deribit มองว่าราคาจะไปต่ำกว่า $110,000 และจากราคาที่ยังไม่เป็นใจในตอนนี้อาจทำให้นักเทรดฝั่งหมีจะได้แต้มต่อกว่า $1 พันล้าน มาถล่มตลาด ถ้าราคายังไม่ฟื้นเหนือ $110,000 ซึ่งเป็นจุดเจ็บปวดสูงสุด (Max pain)ก่อนหมดอายุสัญญา
สำหรับ Bitcoin หากในวันนี้ราคาร่วงลงไปในช่วง $107,000 – $110,000 นักลงทุนฝั่งที่เก็งว่าราคาจะลง (Put) จะได้เปรียบทันทีราว 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ถ้าราคายืนเหนือ $110,000 – $112,000 ได้ ทั้งสองฝั่งจะอยู่ในจุดที่ “เสมอกัน” มูลค่าประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์ และถ้า Bitcoin ดีดกลับไปแถว $112,100 – $115,000 ฝั่งที่เก็งว่าราคาจะขึ้น (Call) จะได้เปรียบขึ้นมาทันทีประมาณ 600 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ Ethereum ก็ไม่น่าห่วงไม่แพ้กัน เพราะราคาตอนนี้อยู่ที่ $3,933 ซึ่งใกล้กับจุดที่นักลงทุนส่วนใหญ่ “เจ็บตัวมากที่สุด” หรือที่เรียกว่า Max Pain ที่ $3,800 ถึงแม้จะมีคนเปิดสัญญาเก็งขึ้น (Call) มากกว่าฝั่งเก็งลง (Put) แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ความได้เปรียบของฝั่ง Call ยังถือว่าน้อย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า หากวันนี้ Ethereum ไม่สามารถปิดราคาเหนือระดับ $4,000 ได้ มีโอกาสสูงที่ราคาจะถูกกดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ $3,700 และอาจดิ่งลึกถึง $3,500 ได้ สาเหตุเป็นเพราะข้อมูลจากตลาดสัญญาออปชันชี้ว่า ระดับ $4,000 คือจุดตัดสินสำคัญของราคา เนื่องจากมีการเปิดสัญญาเก็งขาลง (Put) เป็นจำนวนมากที่ระดับนี้ ซึ่งอาจกดดันให้ราคาอ่อนตัวลงหากปิดไม่ผ่าน