<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เคล็ดลับจัดพอร์ตคริปโต 2025: วิธีสร้าง Portfolio ที่สมดุลและยั่งยืน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในบทความนี้ทางเราจะพาไปเจาะลึกถึงรายละเอียดของการสร้างพอร์ตคริปโตที่ต่างคนก็จะต่างกลยุทธ์การลงทุนกันไป พร้อมกันนี้อาจทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบกับตัวของผู้อ่านด้วยก็เป็นได้ว่าการลงทุนและการจัดพอร์ตแบบไหนเข้ากับแผนการลงทุนของตัวเองมากที่สุดและต้องขอย้ำว่านี่ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใดเพียงแต่เป็นเพียงการให้ความรู้ในด้านการจัดสรรพอร์ตเท่านั้น

Bitcoin และ Ethereum เพียงพอแล้วหรือยัง?

นักลงทุนบางคนเลือกที่จะซื้อและถือครองแค่เหรียญใหญ่ๆ อย่าง Bitcoin และ Ethereum ขณะที่บางคนอาจหันไปลงทุนใน Altcoins หรือ Stablecoins แต่คำถามคือ กลยุทธ์ไหนดีที่สุด?

จริง ๆ แล้วก็อาจจะบอกได้ว่าไม่มีพอร์ตการลงทุนแบบใดที่เหมาะกับทุกคน แต่ถ้าคุณต้องการเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด พร้อมลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด จุดเริ่มต้นที่ดีคือการสร้าง พอร์ตคริปโตที่มีทั้งความหลากหลายและความสมดุล

ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน มาดูแนวทางการสร้างพอร์ตคริปโตที่สมดุลไปพร้อมกัน

พอร์ตคริปโตคืออะไร?

พอร์ตการลงทุนคริปโตคือ “ตะกร้า” ที่รวบรวมเหรียญคริปโตหลากหลายชนิดไว้ด้วยกัน คล้ายกับพอร์ตลงทุนแบบดั้งเดิม เพียงแต่ต่างกันที่คุณจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียว คือคริปโตแทนที่จะกระจายไปในหุ้น, อสังหาฯหรือพันธบัตร

พื้นฐานการสร้างพอร์ตคริปโตที่สมดุล

เป้าหมายหลักของการสร้างพอร์ตสมดุลคือ ลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด โดยใช้การกระจายความเสี่ยง การกระจายพอร์ตไปลงทุนในเหรียญหลากหลายประเภทจะช่วยลดความเสี่ยงจากเหรียญใดเหรียญหนึ่งร่วงแรง และเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับการเติบโตของตลาดคริปโตในหลายๆ ด้าน

ทั้งนี้ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ทุกกลยุทธ์มีข้อดีข้อเสีย ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสไตล์ของนักลงทุนเอง

พอร์ตแบบกระจุกตัว vs พอร์ตแบบกระจายตัว

กระจุกตัว

  • ลงทุนในเหรียญเพียงไม่กี่ตัว
  • ถ้าเลือกถูก เหรียญพุ่งแรง จะได้ผลตอบแทนสูงมาก
  • แต่ความเสี่ยงก็สูง เพราะถ้าเหรียญเหล่านั้นร่วง จะกระทบหนักทั้งพอร์ต
  • ตัวอย่างเช่นเคส Terra LUNA ที่ล้ม ส่งผลให้นักลงทุนที่ลงหนักเสียหายยับ

กระจายตัว

  • ลงทุนในเหรียญหลายประเภท หลายภาคส่วน
  • ช่วยลดผลกระทบจากเหรียญใดเหรียญหนึ่งร่วงแรง
  • พอร์ตไม่ผันผวนรุนแรงเหมือนพอร์ตที่กระจุกตัว
  • เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการความสมดุลและลดความเสี่ยง

วิธีสร้างพอร์ตคริปโตที่สมดุล

  1. กระจายความเสี่ยงอย่างพอดี
    • ลงทุนในเหรียญใหญ่ (BTC, ETH) ร่วมกับเหรียญกลาง-เล็ก เพื่อสมดุลระหว่างความปลอดภัยและโอกาสเติบโต
    • เลือกจำนวนเหรียญที่พอจัดการได้ ไม่มากจนตามข่าวสารไม่ไหว (อ้างอิง Benjamin Graham แนะนำ 10–30 สินทรัพย์ก็พอ)
    • กระจายไปในหลายประเภท เช่น DeFi, Layer 1, Payment coins
  2. ถือ Stablecoins บางส่วน
    • มีไว้เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง สามารถนำมาใช้ซื้อเหรียญเมื่อมีโอกาส หรือกันความเสี่ยงจากความผันผวน
  3. ปรับสมดุลพอร์ต
    • เมื่อเวลาผ่านไปและราคาคริปโตเปลี่ยน ควรปรับพอร์ตให้กลับมาใกล้เคียงเป้าหมายความเสี่ยงเดิม
    • เช่น ช่วงตลาดกระทิงอาจเพิ่มสัดส่วนเหรียญเสี่ยงสูง แต่ช่วงตลาดหมีควรโยกไปเหรียญใหญ่หรือ Stablecoins
  4. หมั่นศึกษาด้วยตนเอง
    • ศึกษาโปรเจกต์, ข่าวสารและพื้นฐานของเหรียญก่อนลงทุน
  5. ลงทุนด้วยเงินที่คุณยอมเสียได้
    • อย่าลงทุนจนกระทบชีวิตประจำวัน

ประเภทของสินทรัพย์คริปโตที่อาจจะพิจารณาเป็นทางเลือกได้

  • Payment Currencies: BTC, XRP
  • Stablecoins: USDT, USDC
  • Utility Tokens: BNB
  • Infrastructure Tokens: ETH, ADA
  • Meme Coins: DOGE
  • Governance Tokens: UNI, AAVE

กลยุทธ์การลงทุนยอดนิยม

  • HODL: ซื้อและถือยาว ไม่ขายแม้ตลาดผันผวน
  • Dollar Cost Averaging (DCA): ทยอยซื้อประจำทุกเดือน ลดความเสี่ยงจากการจับจังหวะผิด
  • Buy the Dip: ซื้อเมื่อราคาลง รอขายตอนราคาเด้งกลับ

สรุป

การสร้างพอร์ตคริปโตที่สมดุลคือการหาจุดกึ่งกลางระหว่าง โอกาสในการทำกำไรสูง และ การควบคุมความเสี่ยง ไม่มีสูตรสำเร็จเดียวที่ใช้ได้กับทุกคน แต่ถ้าคุณกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม รู้จักปรับสมดุล และไม่ลงทุนเกินกำลัง พอร์ตของคุณก็จะมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว