เวเนซุเอลา ประเทศในอเมริกาใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องปัญหาเงินเฟ้อ ล่าสุดในปี 2025 ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งทะลุ 229% ส่งผลให้ประชาชนต้องหาทางเอาตัวรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ หลายคนจึงหันไปใช้สกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรมากกว่าอย่าง ‘ Binance Dollar’ เพื่อรักษามูลค่าและใช้ในการทำธุรกรรมแทนเงินโบลิวาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก
Binance Dollar คืออะไร?
สำหรับคำว่า “dólares Binance” ที่ชาวเวเนซุเอลาใช้เรียกกันนั้น จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่สกุลเงินใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นคำที่เอาไว้ใช้เรียก Tether ( USDT) ซึ่งมีการซื้อขายกันบนเว็บเทรด Binance ผ่านช่องทาง P2P ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งในกลุ่มร้านค้าและผู้ใช้งานทั่วไป

3 ปัจจัยที่ทำให้ USDT กลายเป็นเงินที่เข้ามาแทนโบลิวาร์ของเวเนซุเอลา
สาเหตุหลักที่ทำให้ชาวเวเนซุเอลาหันมาใช้ USDT มีอยู่สามประการสำคัญ ประการแรกคือเรื่องของ เงินเฟ้อที่ควบคุมไม่ได้ ค่าเงินโบลิวาร์อ่อนค่าลงเฉลี่ยกว่า 26% ต่อเดือน หรือราว 200% ต่อปี ทำให้การตั้งราคาสินค้าด้วยสกุลเงินท้องถิ่นแทบเป็นไปไม่ได้ ราคาขยับขึ้นตลอดเวลา สร้างความสับสนทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

ประการต่อมาคือ ช่องว่างระหว่างมูลค่าอย่างเป็นทางการกับมูลค่าจริงในตลาด ซึ่งบางครั้งต่างกันมากถึง 69% ต่อปี ร้านค้าหลายแห่งจึงไม่สามารถอ้างอิงค่าโบลิวาร์จากอัตราที่รัฐบาลกำหนดได้ และจำเป็นต้องหันไปใช้สกุลเงินที่มั่นคงกว่าอย่าง USDT เพื่อให้การค้าขายเดินหน้าต่อไปได้
สุดท้ายคือเรื่องของ ความสะดวกในการใช้งาน รายงานหลายฉบับชี้ว่า USDT ได้รับความนิยมเพราะหาได้ง่ายกว่าธนบัตรดอลลาร์จริง ๆ ที่ขาดแคลนจากการคว่ำบาตร ขอเพียงมีโทรศัพท์มือถือก็สามารถโอนหรือรับเหรียญได้ทันที อีกทั้งฝั่งร้านค้าก็ไม่ต้องเสียเวลาทอนเงินสำหรับธุรกรรมย่อย ๆ ทำให้การชำระเงินคล่องตัวขึ้น โดยส่วนใหญ่ประชาชนเลือกทำธุรกรรมผ่านบล็อกเชน Tron (TRC-20) ที่มีค่าธรรมเนียมถูกและรวดเร็ว
โตเร็วเพราะจำเป็น
ข้อมูลยังเผยอีกว่าประเทศเวเนซุเอลาเป็นประเทศที่มีการเปิดรับและมีการใช้งานคริปโตในระดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานในกลุ่มคนรากหญ้า เห็นได้จากปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา และกว่า 47% ของธุรกรรมมูลค่าต่ำกว่า $10,000 ล้วนแล้วแต่เป็น Stablecoin
สำหรับการแลกเปลี่ยนในประเทศ ร้านค้าจะทำการตั้งราคาในหน่วย USD แต่จะทำการชำระเงินกันจริงด้วย USDT ผ่านการ P2P โดยอิงเรทค่าเงินบน Binance และการทำธุรกรรมของ USDT ก็ครอบคลุมทั้งหมดตั้งแต่การซื้อของจำเป็น ค่าเช่า และอื่น ๆ ขณะที่สกุลเงินดั้งเดิมจะถูกใช้ในการจ่ายเงินเดือน และเสียภาษี
การหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลของชาวเวเนซุเอลา แม้จะเป็นเรื่องที่ดีแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเช่นการโจรกรรมโทรศัพท์มือถือ และการหลอกทำธุรกรรม P2P ที่พบเห็นกันได้บ่อยๆ และหากให้พูดตรง ๆ การใช้ USDT ก็เข้าข่ายอยู่ในโซน “สีเทา” เนื่องจากรัฐไม่ได้อนุญาตแต่ก็ยังคงปล่อยไว้เพื่อที่ประชาชนจะยังสามารถมีกำลังซื้อได้
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า Stablecoin ได้กลายเป็นเครื่องมือชั้นยอดที่ช่วยผลักดันให้สกุลเงินดอลลาร์ถูกใช้อย่างแพร่หลาย โดยแทบไม่ต้องมีการแทรกแซงจากภาครัฐอเมริกันเลย ขณะเดียวกัน ผู้คนในประเทศที่เผชิญกับวิกฤตเงินเฟ้อก็ยอมรับและใช้งานมันอย่างเต็มใจ เพราะมองว่าเป็นทางออกที่มั่นคงและเชื่อถือได้มากกว่าสกุลเงินท้องถิ่น
- ที่มา : Cointelegraph
- ภาพ : RTE

