ราคา Bitcoin ดิ่งลงกว่า 13.7% ภายในเวลาไม่ถึง 8 ชั่วโมง แตะระดับ 105,000 ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักเทรดพอร์ตแตกรวมกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ และเผยให้เห็นถึงความเปราะบางของโครงสร้างตลาดอนุพันธ์ ท่ามกลางความเชื่อมั่นต่อ BTC ETFที่ยังคงแข็งแกร่ง
การร่วงที่ไม่ใช่ครั้งแรก Bitcoin เคยเจอแรงกระแทกรุนแรงกว่านี้
การร่วงลงในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์การปรับฐานที่รุนแรงที่สุดในปี 2025 แต่ไม่ใช่สิ่งที่ตลาดไม่เคยเจอมาก่อน ตัวอย่างเช่น
- วันที่ 12 มีนาคม 2020 “COVID-19 Crash” ราคา BTC ร่วงลงถึง 41.1% ในวันเดียว
- วันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 ราคา BTC ดิ่ง 16.1% เหลือ 15,590 ดอลลาร์ หลังการล่มสลายของ FTX
- หลังเปิดตัว Bitcoin ETF ในปี 2024 ก็ยังมีเหตุการณ์ร่วงแรง 10–15% หลายครั้ง
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนว่า ความผันผวนเป็นลักษณะพื้นฐานของตลาด Bitcoin โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนวัฏจักร

นักเทรดฟิวเจอร์พอร์ตแตกกว่าครึ่ง Leverage กลายเป็นดาบสองคม
การร่วงลงครั้งนี้ลากให้มูลค่าสัญญาฟิวเจอร์ลดลง 13% และมีนักเทรดพอร์ตแตกจากการเปิด long มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์บน Hyperliquid รวมถึงมีผู้ใช้ Binance และ DEX อื่น ๆ รายงานปัญหาการคำนวณมาร์จิ้นและการลดเลเวอเรจอัตโนมัติ ส่งผลให้สถานะของเทรดเดอร์จำนวนมากถูกปิดแม้จะมีกำไร
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่านี่เป็นผลจากการใช้ Leverage ในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ โดย Altcoin หลายตัวร่วงมากกว่า 40% ยิ่งทำให้ Margin ของเทรดเดอร์สั่นคลอนอย่างหนัก
Spot-Futures Gap สะท้อนแรงกดดันของตลาด
ระหว่างเกิดเหตุการณ์ สัญญา BTC/ USDT แบบถาวรถูกเทรดต่ำกว่าราคาสปอตของ BTC/USD ถึง 5% ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นโอกาสของ Market Maker แต่ในครั้งนี้ดูเหมือนจะมีแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้ตลาดไม่สามารถกลับสู่สมดุลได้ทันที
เหตุการณ์สุดสัปดาห์และข่าวลือ คือเชื้อไฟเสริมความผันผวน
การร่วงลงเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่สภาพคล่องบางเบา และยิ่งซ้ำเติมด้วยการปิดตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ในวันจันทร์เพราะวันหยุดราชการ ขณะเดียวกันมีข่าวลือเรื่องการล้มละลายของบริษัทบางแห่งในตลาด ทำให้ผู้ดูแลสภาพคล่องลดความเสี่ยง ส่งผลให้แรงขายถูกเทลงมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ใช่วิกฤตครั้งแรก และไม่ใช่จุดจบของ Bitcoin
แม้การร่วงแรงนี้จะสร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วตลาดคริปโต แต่หากมองจากประวัติศาสตร์ของ Bitcoin ความผันผวนในระดับ 10–15% เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ และตลาดก็มักจะฟื้นกลับได้ในภายหลัง การเปิดตัว ETF ในปี 2024 อาจช่วยดูดซับความผันผวนบางส่วนได้ แต่ก็ไม่สามารถขจัดความเสี่ยงได้ทั้งหมด
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ระดับ 105,000 ดอลลาร์อาจกลายเป็นแนวรับสำคัญรอบใหม่ และตลาดอาจใช้เวลาอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์เพื่อดูว่าแนวรับนี้จะยืนได้หรือไม่
Source: Cointelegraph

