กองทุนผลิตภัณฑ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเผชิญกับภาวะเงินทุนไหลออกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าสองเดือน โดยข้อมูลล่าสุดจากรายงานของ CoinShares เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ระบุว่า มีเงินทุนไหลออกสุทธิรวม 360 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว
‘พาวเวล’ ต้นเหตุ-สหรัฐฯ เทหนักสุด
การเทขายครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเงินไหลออกจากกองทุนในประเทศสูงถึง 439 ล้านดอลลาร์ โดยมีชนวนเหตุสำคัญมาจากถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ออกมา “สับขาหลอก” ตลาด โดยกล่าวว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม “ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่แน่นอน”
“เราเชื่อว่าการตีความท่าทีที่แข็งกร้าว (Hawkish) ของเจอโรม พาวเวล ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อราคา Bitcoin เนื่องจาก Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่อ่อนไหวต่อการพัฒนานโยบายการเงินมากที่สุด” เจมส์ บัตเตอร์ฟิลล์ (James Butterfill) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoinShares กล่าว

Bitcoin (BTC) เหยื่อรายใหญ่-แต่ Solana (SOL) คือพระเอก
แม้ภาพรวมตลาดจะติดลบ 360 ล้านดอลลาร์ แต่เหยื่อที่แท้จริงคือ Bitcoin โดยกองทุนที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin เพียงอย่างเดียว มีเงินทุนไหลออกอย่างรุนแรงถึง 946 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กองทุน iShares Bitcoin Trust (ของ BlackRock) มีเงินไหลออก 390 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่กองทุน Wise Origin Bitcoin Fund (ของ Fidelity) มีเงินไหลออก 156 ล้านดอลลาร์
แต่ในขณะที่ Bitcoin กำลังเลือดไหล เงินทุนกลับไม่ได้หนีออกจากตลาดคริปโตทั้งหมด แต่เป็นการ “ย้ายสินทรัพย์” (Rotation) อย่างชัดเจน
- Solana (SOL) กลายเป็นดาวเด่นที่สวนกระแสอย่างแท้จริง โดยกองทุน ETF ของ Solana ในสหรัฐฯ มีเงินทุนไหลเข้าอย่างมหาศาลถึง 421 ล้านดอลลาร์
- Ethereum (ETH) ยังคงดึงดูดเงินทุนได้เล็กน้อยที่ 57.6 ล้านดอลลาร์
- Altcoins อื่นๆ เหรียญอย่าง XRP, Sui (SUI) และ Litecoin (LTC) มีเงินทุนไหลเข้ารวมกันเกือบ 54 ล้านดอลลาร์
ราคาดิ่ง-สวนทางยุโรป
การเทขายครั้งนี้ได้กดดันราคา Bitcoin ให้ร่วงลงกว่า 3% ในรอบ 24 ชั่วโมง มาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 107,727 ดอลลาร์ ซึ่งลดลงประมาณ 12% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา และต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 126,198 ดอลลาร์อยู่ 15%
ที่น่าสนใจคือ ข้อมูลระดับภูมิภาคแสดงให้เห็นภาพที่แตกต่างออกไป ในขณะที่สหรัฐฯ เทขาย แต่เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์กลับมีเงินทุนไหลเข้า 32 ล้านดอลลาร์ และ 30.8 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
ที่มา: coinshares

