กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และกรมสรรพากร (IRS) ได้ “พลิกโฉม” (Paves the way) ตลาดคริปโตใน Wall Street ครั้งใหญ่ ด้วยการออก “แนวทางใหม่” (New Guidance) ที่เปรียบเสมือนการ “ปลดล็อก” ให้กองทุน Crypto ETF สามารถนำสินทรัพย์ของลูกค้าไป “Staking” เพื่อสร้าง “ผลตอบแทน” (Yield) และแบ่งปันให้กับนักลงทุนรายย่อยได้แล้ว
การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่า จะช่วย “กระตุ้น” ให้เกิดการยอมรับในวงกว้าง (Mainstream Adoption) ต่อบล็อกเชนอย่าง Ethereum และ Solana อย่างมหาศาล

“พลิกนโยบาย 180 องศา” – ปลดล็อกสิ่งที่เคย “ต้องห้าม”
นี่ถือเป็นการ “พลิกนโยบาย 180 องศา” จากยุครัฐบาลไบเดน ที่ ก.ล.ต. (SEC) ในยุคนั้นมองว่าการ Staking “สุ่มเสี่ยง” (Could be considered) ที่จะเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
ด้วยเหตุนี้ ตอนที่ Spot Ethereum ETF ได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่แล้ว (2024) กองทุนทั้งหมดจึงถูก “ห้าม” (Notably did not allow) ไม่ให้มีฟีเจอร์ Staking
จนกระทั่งเมื่อ “เดือนที่แล้ว” (ตุลาคม 2025) Grayscale ได้ “วัดใจ” (กล้าเสี่ยง) และกลายเป็นผู้ออก ETF รายแรกในสหรัฐฯ ที่ “ลอง” เปิดให้มีการ Staking เหรียญ ETH
แต่วันนี้ รัฐบาลทรัมป์ได้ “ปูพรมแดง” (Greenlit) ให้กับทุกบริษัทผ่านแนวทาง “Safe Harbor” (ช่องทางปลอดภัย) ซึ่งมอบ “ความแน่นอน” ทั้งด้านกฎระเบียบและภาษี ทำให้บริษัท TradFi ยักษ์ใหญ่ที่ “กลัวความเสี่ยง” (Risk-averse) สามารถเปิดบริการ Staking ตาม Grayscale ได้อย่างสบายใจ
รัฐมนตรีคลัง (ทรัมป์) “ทวีต” ยืนยัน
สกอตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (ในรัฐบาลทรัมป์) ได้ออกมา “ทวีต” ยืนยันข่าวดีนี้ด้วยตัวเอง
เขาระบุว่า แนวทางใหม่นี้ได้สร้าง “เส้นทางที่ชัดเจน” (Clear Path) “นี่จะช่วย เพิ่มผลประโยชน์ให้นักลงทุน, กระตุ้นนวัตกรรม และทำให้อเมริกายังคงเป็นผู้นำโลกด้านสินทรัพย์ดิจิทัล”
เงื่อนไข “Safe Harbor” ที่ “ง่ายแสนง่าย”
แนวทางใหม่นี้ระบุ “เงื่อนไขที่ง่ายมาก” (Easy-to-meet criteria) ที่กองทุน ETF ต้องทำตาม ได้แก่:
- กองทุนต้องถือสินทรัพย์ดิจิทัล (PoS) เพียงประเภทเดียว (เช่น กอง ETH หรือ กอง SOL เท่านั้น)
- ห้ามทำหน้าที่อื่นใด นอกจากการ “ถือ, Staking และ ไถ่ถอน” เหรียญนั้นๆ
- ต้องใช้บริการ “ผู้ดูแลสินทรัพย์” (Custodian) และ “ผู้ให้บริการ Staking” (Staking Provider) ที่เป็นอิสระต่อกัน
Consensys ชี้ “ทลายกำแพง” ขวาง TradFi
บิล ฮิวจ์ส (Bill Hughes) หัวหน้าฝ่ายกฎระเบียบของ Consensys (บริษัทแม่ของ MetaMask) กล่าวว่า “ผลกระทบต่อการ Staking จะมหาศาลมาก”
“มันคือการ ‘ทลายกำแพงทางกฎหมายที่สำคัญ’ (Removes a major legal barrier) ที่เคยขัดขวางผู้จัดการกองทุนยักษ์ใหญ่ ไม่ให้กล้ารวม ‘ผลตอบแทนจากการ Staking’ เข้าไปในผลิตภัณฑ์ของพวกเขามานาน”
ที่มา: decrypt

