<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หุ้นบ.คริปโทฯ กอดคอฟื้นตัวแรง หลัง Bitcoin พุ่งกลับมายืนเหนือ $88,000  

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีได้แสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่โดดเด่นอีกครั้ง โดย Bitcoin ประสบความสำเร็จในการกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ $88,000 ขณะที่ Ethereum ก็ฟื้นตัวขึ้นในระดับราคา $2,900 ได้อย่างมั่นคง หลังจากที่ทั้งสองสกุลเงินดิจิทัลหลักต้องเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักต่อเนื่องหลายสัปดาห์

การฟื้นตัวนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตลาดคริปโทฯ เท่านั้น แต่ยังลามไปถึงหุ้นของบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับคริปโทฯ ซึ่งปรับตัวพุ่งขึ้นตามเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนที่สำคัญจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ซึ่งถูกผลักดันด้วยความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ประกอบกับการกลับมาของแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม AI และเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่ง  

ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยหุ้นของ Bitmine Immersion Technologies ได้ทะยานขึ้นกว่า 19.62% ซึ่งแซงหน้าการฟื้นตัวของสินทรัพย์ที่บริษัทถือครองอย่าง Ethereum ไปอย่างชัดเจน

ตามมาด้วย MicroStrategy ที่กลับตัวพุ่งขึ้นในวันเดียวอีก 5% เช่นเดียวกัน รวมถึง CleanCore Solutions ที่มีการถือครอง Dogecoin ก็ปรับตัวแรงถึง 19.43% สถานการณ์บวกนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงบริษัทในภูมิภาคอื่นอย่าง Metaplanet ที่ราคาหุ้นปรับขึ้น 2.8% ในวันนี้

นอกจากกลุ่มบริษัทที่มีการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นทุนสำรองแล้ว หุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตโดยตรงก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น Coinbase (+6.47%) หรือ Robinhood (+7.15%) สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับคืนสู่ตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกันหุ้นของเหมืองขุดคริปโทฯ เองก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าใคร นำมาโดย Cleanspark (+17.99%) , Hut8 (+14.3%) , MARA (+11.32%)  , และ Galaxy (+5.81%) 

อย่างไรก็ตามแม้การกลับตัวของหุ้นในวันนี้จะพุ่งขึ้นรุนแรง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทเหล่านี้จะรอดพ้นจากปัญหารุมเร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบริษัททุนสำรองคริปโต (DATs) ที่หลายเจ้ากำลังเสี่ยงถูกถอดออกจากดัชนีสำคัญ 

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางบริษัทยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากการถือครองคริปโตในราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน เช่น Bitmine ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเมื่อไรก็ตามที่บริษัทเหล่านี้ยอมแพ้อาจทำให้เกิดภาวะโดมิโนล้มกันเป็นทอด ๆ จากแรงเทขายเพื่อหาทางใช้หนี้