โดยสรุปสั้นๆว่า New York ได้ร่างกฏกหมายเพื่อจัดการกับการฉ้อโฉงในโลก Cryptocurrency และได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างกฏระเบียบของ Crypto เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมในโลก Crypto และวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ยังมีการร่างกฏหมายเพื่อปกป้องมันจากการตัดสินใจของประเทศเอลซัลวาดอร์ เกี่ยวกับการใช้ Bitcoin
ร่างกฏหมายป้องกันการ Rug pull
กฏหมายที่เสนอนี้ยังพยายามที่จะแก้ไขอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ การกระจาย Virtual Token ,สิ่งต่างๆที่ซ่อนอยู่ใน crypto และการใช้ Private Key ในทางที่ผิด ถือว่าเป็นอาชญากรรมภายใต้กฎหมายนิวยอร์ก
กฏหมายร่างมีชื่อว่า Senate Bill S8839 โดยกฏหมายที่ร่างจะพยายามที่จะกำหนดบทลงโทษของการฉ้อโกง และนักพัฒนาที่หลอกลวงนักลงทุน ด้วยความที่เป็นกฏหมายที่มีความมากมายของเนื้อหา ทำให้กฏหมายนี้ใช้เวลานานในการร่าง
กฏหมายนี้จะช่วยให้อัยการมีความชัดเจนมากขึ้น ในการติดตามอาชญากรรมในโลก crypto โดยใช้เทคโนโลยี blockchain และต่อสู้กับการฉ้อโกง ส่วนหนึ่งของกฏหมายมีการกำหนดบทลงโทษของ นักพัฒนา เมื่อเกิดการ Rug Pull
นอกจากนี้ยังกำหนดการ ใช้ Private Key ในทางที่ผิด หรือ เปิดเผยPrivate Key ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม นักพัฒนาที่ไม่สามารถป้องกันการเปิดเผยข้อมูลของส่วนตัวผู้ถือครอง crypto ใน Project ของเขา อาจต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลว ในป้องกันการฉ้อโกงทำให้ผู้ถือ Vitual Token ได้รับความเดือดร้อน
ขณะนี้กฏหมายร่างได้ส่งต่อไปยังคณะกรรมการการตรวจสอบของวุฒิสภา เพื่อทำการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีกฏหมายเพิ่มเติมส่งไปอีกซึ่งร่างโดย นาย Clyde Vanel ซึ่งกฏหมายร่างมีชื่อว่า Assembly Bill A8820 มันถูกส่งไปถึงคณะกรรมการการตรวจสอบตอนล่าง
การร่างกฏหมายนี้ใน New York ทำให้ดูเหมือนว่ารัฐนี้จะเป็นผู้ที่บุกเบิกในการวางกรอบกำกับดูแล Crypto โดยขณะนี้ยังไม่มีประกาศว่ากฏหมายจะออกมาเมื่อไหร่ แต่เมื่อออกมาแล้วจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศออกมา 30 วัน
กฏหมายอื่นๆเหมือนจะปกป้องสหรัฐฯจากการตัดสินใจของประเทศเอลซัลวาดอร์ เกี่ยวกับการใช้ Bitcoin
New York ไม่ใช่ที่เดียวที่ร่างกฏหมายเกี่ยวกับ Crypto ในระดับรัฐบาลกลาง สมาชิก 2 คน ของสภาผู้แทนราษฎร นาย Norma Torres ของเมือง California และ นาย Rick Crawford ของเมือง Arkansas
ได้แนะนำการร่างกฏหมายเพื่อลดความเสี่ยง ที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการยอมรับ Bitcoin ของประเทศเอลซัลวาดอร์
กฏหมายที่ร่าง วิเคราะห์ว่า การยอมรับ Bitcoin อาจส่งผลต่อการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ,ประชาธิปไตย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในเอลซัลวาดอร์ ดังนั้นมันอาจจะส่งกระทบมาถึงสหรัฐฯ
นาง Rep Norma Torres วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของ El Salvador ที่จะหันมาใช้ Bitcoin โดยระบุว่า “ไม่ใช่การตัดสินใจที่รอบคอบของนวัตกรรมนี้ แต่เป็นการเดิมพันที่ประมาทและที่ทำให้ประเทศไม่มั่นคง”
และเธอยังกล่าวอีกว่า
“เอลซัลวาดอร์เป็นประชาธิปไตยอิสระ และเราเคารพสิทธิในการปกครองตนเอง แต่สหรัฐอเมริกาต้องมีแผนเพื่อปกป้องระบบการเงินของเรา จากความเสี่ยงของการตัดสินใจครั้งนี้”
นาย Nayib Bukele ประธานาธิบดีของ El Salvador ได้วิพากษ์วิจารณ์การร่างกฏหมายนี้โดยกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯไม่มีสิทธิ์ในกิจการของประเทศของเขา