<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักเทรด Future ถูกล้างพอร์ตยับ สูญเงินกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หลังราคา Bitcoin ร่วงแตะ $35,500

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Bitcoin ยังคงปรับตัวตัวลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ หลังนักลงทุนไม่เชื่อใจ FED ว่าจะยับยั้งเงินเฟ้อได้  จนทำให้ราคาได้ร่วงทะลุแตะระดับ 35,571 ดอลลาร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นผลทำให้นักเทรดฟิวเจอร์ถูกล้างพอร์ตกันไปเป็นมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์ หรือราว ๆ 1.3 หมื่นล้านบาท

เมื่อวานนี้ราคา Bitcoin ได้ดีดตัวพุ่งขึ้นยืนเหนือ $37,000 ในช่วงสั้น ๆ จนทำให้นักเทรดส่วนใหญ่เริ่มโล่งใจ ก่อนราคาจะสับขาหลอกนักลงทุนและร่วงดิ่งอย่างกระทันหันสู่ระดับ 35,500 ดอลลาร์ในวันนี้

นักเทรดถูกล้างพอร์ตกันยับมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท

ในช่วงเช้าวันนี้ ราคา Bitcoin ได้ร่วงดิ่งลงอย่างน่ากลัวจาก 39,200 ดอลลาร์ไปแตะจุดต่ำเกือบ ๆ 34,200 ดอลลาร์ ในขณะเดียวกันอัตรา Funding rate ในตลาดฟิวเจอร์นั้นก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก บ่งบอกว่านักเทรดส่วนใหญ่เชื่อมั่นในช่วงขาลงเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ

ข้อมูลจาก Coinglass เผยให้เห็นว่า นักเทรดคริปโตฟิวเจอร์ฝั่ง Long ถูกล้างพอร์ตกันไปเป็นมูลค่ากว่า 164 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการล้างพอร์ตครั้งฝั่ง Long ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022

ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า ราคา Bitcoin ที่ลดลงอย่างกะทันหันนั้นเป็นผลมาจากการโยกย้ายเงินลงทุนออกตลาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ท่ามกลางความกังวลความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว, การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ของจีน, ความขัดแย้งในยูเครน และการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ แม้ในช่วงเช้าของวันนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะส่งสัญญาณปฏิเสธไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 0.75% ในการประชุมครั้งต่อไป จนส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะร่วงลดลงแตะจุดต่ำที่ระดับ 35,571 ดอลลาร์ในช่วงเวลาต่อมา

ตามข้อมูลจาก Coinglass จะเห็นได้ว่า เว็บเทรด OKex กลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่มีนักเทรดถูกล้างพอร์ตมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 40% ตามมาด้วย Binance 26 % และ FTX 14% ตามลำดับ

และสำหรับเหรียญคริปโตที่นักเทรดฟิวเจอร์สถูกล้างพอร์ตกันมากที่สุดในช่วง 24 ชั่วโมงก็คือ Bitcoin โดยมีนักเทรดที่ถูกล้างพอร์ตมูลค่ารวมกว่า 190 ล้านดอลลาร์ , Ethereum 64 ล้านดอลลาร์ และรองลงมาคือเหรียญ APE ที่ 11 ล้านดอลลาร์