Solana นั้นได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญที่ต้องเผชิญกับอุตสาหกรรมบล็อกเชนเช่นเดียวกับเครือข่ายยุคใหม่ส่วนใหญ่แม้ว่าเครือข่ายจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้บางส่วนได้โดยธรรมชาติแต่ทางเครือข่ายเองก็พบปัญหาเฉพาะบางอย่างเช่นกัน
จากการใช้ทรัพยากรจนหมดนำไปสู่การหยุดชะงักของการยืนยันข้อมูลในบล็อก ทำให้เครือข่าย Solana ประสบกับความสูญเสียหลายประการซึ่งส่งผลให้ไฟฟ้าดับซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เครือข่ายต้องหยุดทำงานเป็นเวลาหลายชั่วโมงในหลาย ๆ ครั้ง
เครือข่าย Solana นั้นล่มเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2020 ประมาณสามปีหลังจากเปิดตัว Solana นั่นจึงทำให้เกิดความสับสนในชุมชน
เครือข่ายนั้นดูเหมือนจะหยุดการตรวจสอบบล็อกใหม่ที่ช่อง 53,180,900 ทำให้ไม่สามารถยืนยันธุรกรรมได้ทางวิศวกรเครือข่ายได้เป็นผู้ค้นพบและแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้วแต่การหยุดทำงานนั้นกินเวลากว่าหกชั่วโมง
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2020 ทาง Twitter อย่างเป็นทางการของ Solana Support ได้เปิดเผยว่าเครือข่ายประสบปัญหา “ความไม่เสถียรเป็นระยะ” เป็นเวลาประมาณ 45 นาที
ตามข้อมูลจากรายงานนั้นระบุว่าการใช้ทรัพยากรจนหมดอาจเป็นสาเหตุของปัญหาที่ส่งผลให้เกิดการปฏิเสธการให้บริการโดยตามข้อมูลจากฝ่ายให้ความช่วยเหลือทางวิศวกรกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาและมองหาความเป็นไปได้ที่จะทำการ restart หากปัญหายังคงมีอยู่
เครือข่ายของ Solana นั้นเพิ่งประสบปัญหาการหยุดทำงานอีกครั้ง ทำให้นับเป็นครั้งที่ 7 ที่มีการหยุดชะงักโดยในคราวนี้ปัญหาเกิดจากบอทที่เริ่มทำธุรกรรมจำนวนมากบน Metaplex ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่สร้างขึ้นบน Solana ซึ่งการหยุดชะงกของเครือข่ายกินเวลาไปประมาณกว่า 7 ชั่วโมง
George Harrap ผู้ร่วมก่อตั้ง Step Finance ซึ่งเป็นผู้จัดการพอร์ตของ Solana ได้กล่าวไว้ว่าขณะนี้ตัวตรวจสอบของ Solana กำลังทำงานได้ช่าลงเนื่องจากบอทกำลังสแปมการ mint NFT และธุรกรรมแบบเก็งกำไรสิ่งเหล่านี้มีความต้องที่ต้องใช้อัตราการส่งถ่ายข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้นจำนวนที่มีนัยสำคัญจึงมีผลกระทบ
หนทางอีกยาวไกล
ระบบนิเวศของ Solana ได้ผลิตแอปพลิเคชั่นกระจายอำนาจ (DApps) จำนวนหนึ่งรวมถึงโปรโตคอลการให้ยืมเช่น Apricot Finance และ Francium โปรเจ็กต์การเงินกระจายอำนาจ (DeFi) เช่น Orca, Saber และ Raydium ตลาด NFT เช่น Metaplex และ Solanart และแอพ Web3 เช่น Audius และ Brave Browser
อย่างไรก็ตามด้วยตัวเลขของโปรเจ็กต์เพียง 71 โปรเจ็กต์อาจทำให้ระบบนิเวศน์ของ Solana นั้นยังห่างไกลจากระบบนิเวศสำคัญ ๆ เช่น Ethereum ซึ่งมีประมาณ 3,249 โปรเจ็กต์
Orca เว็บเทรดแบบกระจายอำนาจบนบล็อกเชน Solana ซึ่งเป็น DApp ที่มีการใช้งานมากที่สุดในระบบนิเวศของ Solana ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา Orca มีฐานผู้ใช้ 272,000 คน ในขณะที่ตลาด NFT Magic Eden นั้นมาเป็นอันดับสองโดยมีผู้ใช้งานกว่า 121,000 คน
ในทางตรงกันข้าม ในขณะที่ DApp ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในระบบนิเวศ Ethereum ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมาคือตลาด NFT อย่าง OpenSea ที่มีผู้ใช้ประมาณ 148,000 ราย แต่มูลค่ารวมของระบบนิเวศ Ethereum ที่ถูกล็อกไว้ (TVL) นั้นสูงกว่าคู่แข่งอย่าง Solana อยู่มาก โดยมีมูลค่านั้นสูงถึง 113,000 ล้านดอลลาร์ตามข้อมูลจาก DeFiLlama แพลตฟอร์มรวบรวม TVL ของ DeFi ระบุว่า Solana นั้นมี TVL อยู่ที่ 6 พันล้านดอลลาร์
ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำของเครือข่าย Solana นั้นเป็นเหมือนจุดดึงดูดนักพัฒนาและผู้ใช้แต่ด้วยการหยุดทำงานของเครือข่ายบ่อยครั้งก็เป็นเหมือนปัจจัยที่ขัดขวางการใช้งานเครือข่ายทั้งหมดและทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบางรายกลัวการเติบโตของระบบนิเวศ
ซึ่งในจุดนี้ก็เป็นจุดที่สำคัญหาก Solana จะผันตัวไปเป็นเครือข่าย PoS ที่เหนือที่สุดได้นั้นปัญหาต่าง ๆ ของเครือข่ายก็ควรได้รับการแก้ไขก่อนเป็นอันดับแรกแล้วจึงพัฒนาในส่วนอื่น ๆ แล้วจากนั้นก็คงต้องให้เวลาเป็นตัวบอกกับเราว่า Solana จะสามารถขึ้นยืนบนจุดสูงสุดของเครือข่าย PoS ได้หรือไม่