ในเว็บ Community นามว่า Reddit ในส่วน Forum ของ Microsoft ได้มีการพูดถึงมากมายว่า Microsoft เหมือนจะไม่รับ Bitcoin อีกต่อไป มีบางคนออกความเห็นว่า Microsoft เลิกรับ Bitcoin ตามรอยแพลตฟอร์ม Steam โดยต้นตอของข่าวลือมาจากบทความบนเว็บ Bleeping Computer ที่อ้างว่าบริษัท Microsoft ได้ยกเลิกการชำระเงินด้วย Bitcoin แล้ว
ในหัวข้อหนึ่งบน Reddit กล่าวว่า มีผู้ใช้หลายคนพยายามหาปุ่มชำระเงินด้วย Bitcoin แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ โดยเขาให้ความเห็นว่า “การชำระเงินจำนวนน้อยมันไม่ใช่สำหรับ Bitcoin ในตอนนี้” แต่ถึงแม้ว่าข่าวลือนี้น่าจะเป็นความจริงแต่ก็ยังด่วนสรุปไม่ได้เพราะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการของ Microsoft ออกมา
ดังนั้นแล้วมันจริงหรือไม่? ทาง CCN ได้ตัดสินใจลองเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บ Microsoft ดูแต่ปรากฏว่าตัวเลือกการชำระเงินด้วย Bitcoin นั้นหายไปจริง ๆ ทีมงานจึงได้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของเว็บ Microsoft ทันที
ทาง Microsoft ยังคงรับการชำระเงินด้วย Bitcoin หรือไม่?
จากการสนทนากับฝ่ายบริการลูกค้าของ Microsoft พวกเขาได้ตอบกลับมาว่าทาง Microsoft ไม่มีการรับการชำระเงินแบบ Bitcoin จริง ๆ แล้วบริษัทได้ตัดสินใจที่จะหยุดการรับชำระเงินด้วย Cryptocurrency ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2017
หลังจากทีมงานได้พบคำตอบที่ไม่น่าพอใจ จึงอยากคุยกับพนักงานระดับสูงขึ้นจากแผนกบัญชีและการเรียกเก็บเงินของ Microsoft และทางเขาก็ยืนยันว่าบริษัทได้หยุดรับชำระค่าสินค้าด้วย Bitcoin แล้ว เนื่องจาก “ทางเราประสบปัญหาการชำระเงินผ่านช่องทาง Bitcoin อย่างมากมาย”
อย่างไรก็ตามทาง Microsoft ยังคงมีหน้าเว็บไซต์ที่มีคำอธิบายว่าผู้ใช้สามารถเติมเงินด้วย Bitcoin ได้อย่างไร แต่เมื่อทางทีมงานถามถึงเรื่องนี้ก็ได้รับแจ้งว่ากระบวนการนี้ใช้ไม่ได้อีกต่อไปเนื่องจาก Microsoft หยุดรับ Bitcoin ไปแล้ว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทาง Microsoft ไม่รับชำระเงินด้วย Bitcoin จากรายงานของ CNN ระบุว่าทาง Microsoft ได้เคยระงับการชำระเงินด้วย Cryptocurrency เมื่อปี 2016 แต่หลังจากที่มีข่าวนี้แพร่ออกไป Microsoft กลับออกมาขอโทษและแจ้งว่าได้ประกาศข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไป และกล่าวต่ออีกว่าทางบริษัทยังคงรับการชำระเงินด้วย Bitcoin อยู่ ซึ่งในช่วงนั้นหน้าเว็บที่มีรายละเอียดขั้นตอนในการเพิ่มเงินในบัญชีผู้ใช้ด้วย Bitcoin ก็ยังคงมีอยู่ในเว็บไซต์เหมือนเช่นตอนนี้ดังนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft บางคนก็ตั้งข้อสงสัยว่าทางบริษัทอาจออกมาประกาศความผิดพลาดอีกครั้งก็เป็นได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น