ท่ามกลางโอกาสการลงทุนต่างๆ ในโลกคริปโตที่ดีที่สุด Bitbot ถือเป็นผู้ใช้จริงที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะสำหรับผู้ซื้อจากประเทศไทย โทเคนบอทเทรด Telegram ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ตัวนี้ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคม มันได้กลายเป็นจุดสนใจอย่างมากในชุมชนคริปโต
ภายในเวลาเพียง 8 สัปดาห์ Bitbot ระดมทุนไปได้แล้วถึง $905k (หรือราวๆ 30 ล้านบาทไทย) ส่งสัญญาณให้เห็นถึงความมั่นใจของตลาดและความสนใจจากนักลงทุน แม้มันจะมีสถานะยังเป็นเพียงคริปโตเคอร์เรนซีที่เพิ่งเกิดใหม่ก็ตาม
ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบระหว่าง Bitbot และ BNB เพื่อหาว่าโปรเจกต์ไหนถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีกว่ากัน สำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
BNB กำลังทำราคาเพิ่มขึ้นหลังจากเปิดตัวโปรแกรมการเทรดหุ้นแบบ Tokenized
Binance (BNB) Smart Chain ได้มีความก้าวหน้าครั้งสำคัญ มันได้ตั้งตัวเองเป็นแพลตฟอร์ม Layer 1 ชั้นนำ เหตุผลเบื้องหลังของการพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้คืออะไร? นั่นก็คือนวัตกรรมโปรแกรมการเทรดหุ้นแบบ Tokenized ของ Binance
โปรแกรมสุดล้ำสมัยนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อหุ้นของบริษัทในรูปแบบเศษได้ เริ่มต้นด้วย Tesla หุ้นตัวแรกของแพลตฟอร์ม โดยแพลตฟอร์มได้ทำการเปิดตัวโทเคนหุ้นในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลแบบไม่มีค่าธรรมเนียม เรียกว่า Binance ได้เปิดช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างผลตอบแทน และเงินปันผล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อหุ้นในจำนวนน้อยๆ ได้เช่นหุ้น tesla จำนวน 100 หุ้น
แนวทางนี้ทำให้โอกาสในการลงทุนเปิดกว้างขึ้น และตรงไปตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในการเข้าถึงและใช้งานบริการด้านการเงิน
Bitbot การลงทุนคริปโตที่ดีที่สุด ใช้ประโยชน์จากเทรนด์นวัตกรรมครั้งใหม่
Bitbot ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ มันมีความแตกต่างจากบอทเทรด Telegram ตัวอื่นๆ สิ่งที่ทำให้ Bitbot แตกต่างออกไป คือระบบรักษาความปลอดภัยที่ไร้ที่ติ หรือเรียกว่า ‘Non-custodial’ และฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในวงการ ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ Bitbot กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาอัญมณีตัวใหม่ที่มีมูลค่าตลาดรวมต่ำ และการ Presale คริปโตเคอร์เรนซีครั้งใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีความไวรัล หรือสามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนในตลาด
BITBOT: การลงทุนคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนคริปโตชาวไทย?
สำหรับนักลงทุนหลายๆ คน เรียกว่าTelegram ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการพูดคุยโอกาสด้านการลงทุน และหลายๆ คนก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง Research ตามหาโอกาสต่างๆ ในกลุ่ม Alpha ด้วยปัจจัยนี้เองทำให้ Bitbot สร้างรูปแบบการใช้งานบน Telegram เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างและกำหนดกลยุทธ์การเทรดโดยไม่ต้องออกจากการพูดคุย การควบรวมกันครั้งนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์เทรดที่ลื่นไหล โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่า จัดการ และเฝ้าดูการเทรดได้ง่ายๆ (User-Friendly) ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง
แต่อะไรทำให้ Bitbot อยู่เหนือคู่แข่งอย่าง Unibot, Banana Gun, และ Meastro, นั่นก็คือระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่แตกต่างจากคู่แข่ง Bitbot ใช้เฟรมเวิร์คแบบ Non-custodial หมายถึง ผู้ใช้จะเป็นเจ้าของและเป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์จนกว่าการเทรดจะถูกดำเนินการ นั่นหมายความว่าจะมีความเสี่ยงในการเกิดการโจมตีด้านไซเบอร์น้อยลง ระบบความปลอดภัยดังกล่าวทำให้ Bitbot โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง
ประโยชน์และการใช้งานโทเคน BITBOT
BITBOT ถูกสร้างขึ้นโดยอดีตนักเทรดจาก Wall Street ที่มีวิสัยทัศน์ Bitbot ได้ก้าวเข้ามาไม่ใช่แค่ในฐานะบอทเทรด แต่มันคือ การปฏิวัติการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ถือโทเคนจะได้รับรางวัลเป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมจาก Bitbot เป็นจำนวน 50% ถือเป็นยุคใหม่แห่งการแชร์รายได้และการจัดการด้าน Governance–วิธีดำเนินการกระจายอำนาจการตัดสินใจไปยังชุมชน
การวางแผน Tokenomics และ Roadmap การ Presale อย่างมีกลยุทธ์ของ Bitbot แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการสร้างการเติบโตในระยะยาวและความมั่นคง โปรเจกต์ได้ทำการจัดสรรโทเคนจำนวนมากไว้สำหรับ การพัฒนา, การตลาด, สภาพคล่อง, รางวัลชุมชน และเงินทุนสำรอง
คาดการณ์ราคา Bitbot: ลองมองไปในอนาคต
Bitbot กำลังกลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก นักวิเคราะห์และผู้ที่ชื่นชอบคริปโตต่างมองว่าอนาคตของโปรเจกต์นั้นสดใสเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้เข้าร่วมการเดินทางของ Bitbot ในช่วงเริ่มต้นอาจสร้างผลตอบแทนได้ก้อนโต มีการคาดการณ์ว่าผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ 50x ถึง 100x นี่ทำให้ Bitbot อาจกลายเป็นการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อชาวไทย
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น Bitbot ยังเป็นบอทเทรด Telegram ที่ใช้เฟรมเวิร์คแบบ Non-custodial ที่มีความปลอดภุยสูงและการมอบส่วนแบ่งรายได้ให้กับผู้ถือโทเคนของ BITBOT แนวทางที่แปลกใหม่นี้ทำให้ Bitbot เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Banana Gun และ Unibot ซึ่งได้กลายเป็นที่พูดถึงจากการเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย
แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องเจอกับความท้าทายจำนวนมาก, Banana Gun ต้องเจอกับบัคที่ทำให้ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดตัว คล้ายๆ กัน Unibot ก็เกิดปัญหาด้านความปลอดภัย ส่งผลให้ลูกค้าสูญเสียเงินไปกว่า $0.5 ล้าน ถึงแม้จะเกิดปัญหา ทั้งสองแพลตฟอร์มก็สามารถฟื้นตัวจากความสูญเสียครั้งนั้นกลับมาได้ — ในขณะที่เขียนบทความ Banana Gun ทำราคาเพิ่มขึ้น 140% ในเดือนที่ผ่านมา
เบื้องหลังปัญหาด้านความปลอดภัยเหล่านี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของระบบรักษาความปลอดภัยในวงการคริปโต และแสดงให้เห็นว่า ทำไมเฟรมเวิร์คแบบ Non-custodial จึงเป็นฟีเจอร์สำคัญที่จะมาเปลี่ยนวงการ ด้วยการให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัยและการมอบอำนาจให้กับผู้ใช้ Bitbot จึงสร้างระบบนิเวศที่มีความปลอดภัยแตกต่างจากคู่แข่งที่ต่างพบเจอปัญหามามากมาย
กระแสในทิศทางที่ดีของ Bitbot สามารถเห็นได้จาก Social media และการมีส่วนร่วมด้านชุมชนที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มอย่าง Telegram และ Twitter แนวทางที่ให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง เสริมด้วยโปรแกรมการแนะนำ และโอกาสจากการแชร์รายได้ 50% ให้ผู้ถือโทเคน ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งเป็นตัวเสริมความน่าสนใจในการลงทุนของ Bitbot
Bitbot vs BNB: สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการเทรด
ความสำเร็จของโปรแกรมการเทรดหุ้นแบบ Tokenized ของ Binance ถือเป็นการสร้างช่องทางการเติบโตให้กับ Bitbot และยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตของกลุ่มนักลงทุน เนื่องจาก Bitbot ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่มีความแปลกใหม่, ปลอดภัย และเข้าถึงได้ง่าย ด้วยประโยชน์การใช้งานที่หลากหลายและแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร คริปโตเคอร์เรนซีตัวใหม่ของ Bitbot จะกลายเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโปรเจกต์ใหม่ๆ ในวงการคริปโต โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาการลงทุนที่มีประโยชน์การใช้งานจริง (Use-case)
ในขณะที่ Binance ช่วยให้สามารถเข้าถึงตลาดแบบดั้งเดิมได้อย่างอิสระ แต่ Bitbot พร้อมแล้วที่จะมาปฏิวัติรูปแบบของแอปการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีแบบเดิมๆ และสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านความปลอดภัย, การเข้าถึงได้ง่าย และการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน
ปัจจุบันการ Presale อยู่ในขั้นที่ 5 มีราคาอยู่ที่เพียง $0.0122 โอกาสในการเข้าร่วมลงทุนใกล้จะหมดลงแล้ว
ดูข้อมูลเพิ่มเติมและซื้อโทเคน BITBOT, ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโตเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์