Karl Sebastian Greenwood ผู้ก่อตั้ง OneCoin ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ในข้อหาฉ้อโกงผู้ลงทุนใน Onecoin จำนวน 3.5 ล้านคน และนำเงินที่ได้จากการฉ้อโกงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปใช้อย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะเป็นการไปพักในรีสอร์ทระดับห้าดาว ซื้อเครื่องบินส่วนตัว และเรือยอชท์
จากถ้อยแถลงของสำนักงานอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตทางใต้ของนิวยอร์ก เผยว่า Greenwood ในวัย 46 ปี ถูกตัดสินจำคุกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมเรียกค่าปรับเป็นเงิน 300 ล้านดอลลาร์
Greenwood คือ ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์เหรียญแชร์ลูกโซ่ OneCoin ร่วมกับ Ruja Ignatova ราชินี คริปโต เมื่อปี 2014 โดยต่อมา Greenwood ได้ถูกจับกุมตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2018 ในข้อหาฉ้อโกงและการฟอกเงิน จึงถูกส่งตัวกลับไปยังสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน Ignatova ก็เผชิญกับข้อกล่าวหาคล้าย ๆ กัน แต่เธอก็ไม่ถูกพบอีกเลย ตั้งแต่เธอเดินทางไปประเทศกรีซตั้งแต่ปี 2017 ทำให้ Ignatova ถูกเพิ่มไปอยู่ในลิสต์รายชื่อ 10 บุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุดของ FBI ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2022 สำนักงานทนายความกล่าว
อัยการสหรัฐฯ Damian Williams กล่าวในแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์นี้ว่า “Karl Sebastian Greenwood ผู้ก่อตั้ง Onecoin ได้ดำเนินแผนการฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้ง Greenwood และ Ruja Ignatova ผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาที่ได้หลบหนีไปแล้ว ได้ฉ้อโกงเงินของเหยื่อมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยหลอกลวงว่าจะปฏิวัติทางการเงิน และอ้างว่า OneCoin จะเข้ามาแทนที่ Bitcoin ซึ่ง Williams กล่าวต่อไปว่าแท้ที่จริงแล้ว OneCoins นั้นกลับไม่มีมูลค่าแต่อย่างใด
OneCoin ไม่เหมือนกับ Bitcoin
OneCoin ทำการตลาดคริปโตผ่านเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ นำเงินคนใหม่มาให้คนเก่า จึงส่งผลให้เหรียญนี้ยืนหยัดอยู่ได้ อัยการกล่าวว่า Greenwood และ Ignatova ต้องการให้นักลงทุนเชื่อว่า OneCoin นั้นเทียบได้กับ Bitcoin และมักจะเปรียบเทียบระหว่างทั้งสองเหรียญนี้
ตามคำกล่าวของอัยการ Greenwood ได้นำเสนอ OneCoin ว่าเป็น “ คริปโตที่มีเอกลักษณ์และเป็นนวัตกรรมที่เกิดบนความสำเร็จของเหรียญคริปโตรุ่นบุกเบิกอย่าง Bitcoin”
“แต่ในความเป็นจริง Onecoin ไม่เหมือนคริปโตที่ถูกกฎหมายเสียด้วยซ้ำ OneCoin ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง และ Greenwood และ Ignatova ตั้งใจให้เป็นการฉ้อโกงตั้งแต่วันแรก” อัยการกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
Greenwood ได้รับเงินมากกว่า 3 ร้อยล้านดอลลาร์จากโปรเจกต์แชร์ลูกโซ่ Onecoin และใช้จ่ายไปกับทริปท่องเที่ยวรีสอร์ทระดับ 5 ดาวในบราซิล ถึง 1 หมื่นดอลลาร์ และใช้เงิน 2.1 หมื่นดอลลาร์สำหรับวิลล่าหรูในประเทศไทย นอกจากนี้เขายังใช้เงินนี้ในการซื้อเสื้อผ้าของดีไซเนอร์ นาฬิกา เรือยอชท์ อสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศ และค่าเครื่องบินส่วนตัว อัยการกล่าว
ที่มา: The Block