ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคา Bitcoin พุ่งทะยานทะลุระดับราคา 71,000 ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 6.5% จากระดับราคา 65,500 ดอลลาร์ ขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่ 71,491 ดอลลาร์
การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจ โดยมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลกพุ่งสูงขึ้น และในบทความนี้เราจะพามาดู 4 เหตุผลสำคัญเบื้องหลังการพุ่งทะยานของราคา Bitcoin ในครั้งนี้
1. อิทธิพลจากตลาดฟิวเจอร์ (Future market)
ตลาดฟิวเจอร์มีบทบาทสำคัญในการผลักดันราคา Bitcoin ให้สูงขึ้น โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Coinglass ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีนักเทรดโดนล้างพอร์ตจำนวน 64,480 ราย โดยมีมูลค่าการล้างพอร์ตคริปโตทั้งหมด 184 ล้านดอลลาร์ สำหรับ Bitcoin ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเทรด Short (เดิมพันว่าราคาจะลง)
นักวิเคราะห์คริปโตที่ใช้ชื่อว่า Byzantine General ตั้งข้อสังเกตว่า จำนวน
Open Interest (หมายถึง สัญญาที่มีการเปิดสถานะค้างอยู่) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการใช้ Leverage เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาของ Bitcoin สูงขึ้น
โดยเขากล่าวว่า “ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า BTC กำลังถูกซื้อขายเหมือนมีคนรู้อะไรบางอย่าง มีการเพิ่มขึ้นของ Open Interest ที่มีมูลค่าสูงถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์ในช่วงสองสามชั่วโมงที่ผ่านมา ผมคิดว่าโดยหลัก ๆ แล้วการใช้ Leverage นี้ผลักดันให้ราคาสูงขึ้น”
2. ข่าวในแง่ดีของ Bitcoin
โดยข่าวสำคัญที่คอยผลักดันราคาของ Bitcoin คือ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) ประกาศแผนการเปิดรองรับการซื้อขาย Bitcoin และ Ethereum ในรูปแบบตราสารทางการเงิน (ETN) ในวันที่ 28 พฤษภาคม
การตัดสินใจนี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนมืออาชีพในยุโรปเข้าถึง Bitcoin ได้ง่ายขึ้น และแสดงถึงการยอมรับจากสถาบันที่เติบโตอย่างมากในวงกว้างสำหรับการตอบรับทางสถาบันการซื้อขาย
นอกจากนี้ ยังมีข่าวของบริษัทเหมืองทองคำ Nilam Resources ที่แสดงเจตนาที่จะเข้าซื้อ Bitcoins จำนวน 24,800 Bitcoins (มูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์) “ในอัตราส่วนลดเมื่อเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบัน” ผ่านกลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องกับ MindWave ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีจุดประสงค์โดยเฉพาะ ได้เพิ่มความตื่นเต้นและความน่าสนใจให้เข้าสู่ตลาด
3. กองทุน Bitcoin ETF และ Coinbase Premium
นักวิเคราะห์ CryptoQuant คุณ Maartunn รายงานว่า ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่มีผลต่อการขึ้นราคาของ Bitcoin คือ กองทุน Bitcoin ETFs และ Coinbase premium เปลี่ยนเป็นบวกอีกครั้งเมื่อวานนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของ Bitcoin ETF ตามราคาตลาด
โดย Coinbase premium คือ ช่องว่างระหว่างราคา Bitcoin บน Coinbase กับราคา Bitcoin บนตลาดแลกเปลี่ยนอื่น ๆ
อย่างที่เรารู้กันดี Bitcoin ETF ของ Grayscale (GBTC) มีการถอนเงินรวมทั้งหมด สูงถึง 350 ล้านดอลลาร์ แต่ในขณะเดียวกันกองทุน Bitcoin ETF ของ Fidelity ( FBTC) ที่เริ่มมีเงินลงทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 261.8 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Blackrock ที่มีเงินลงทุนไหลเข้าอีก 35 ล้านดอลลาร์
4. Technical Breakout
จากมุมมองทางเทคนิค การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin (BTC) ได้ทำการ Break out เทรนด์ขาลงบนกราฟ Time frame 4 ชั่วโมง ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของราคา และการที่ราคาลงมาทดสอบที่แนวต้านสำคัญอีกครั้ง (โซนสีแดง) ถือเป็นการยืนยันถึงแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นมากกว่า 7%.
สัญญาณทางเทคนิคดังกล่าวได้เพิ่มความมั่นใจให้นักเทรดและนักลงทุนมากขึ้น และมีส่วนช่วยส่งเสริมแรงเพื่อผลักดันให้ราคาทะลุผ่าน 70,000 ดอลลาร์ ไปได้

ที่มา:newsbtc

