Bitcoin อาจกำลังจะก้าวเข้าสู่ “Banana Zone” แต่ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงของตัวชี้วัดสำคัญเหล่านี้ก่อน เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวที่ยั่งยืน
Bitcoin อาจจะเข้าสู่ภาวะ “Banana Zone” ที่ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงเร็ว ๆ นี้ แต่นักวิเคราะห์ด้านคริปโตมองว่าก่อนจะไปถึงจุดนั้น Bitcoin ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มสำคัญใน 3 ด้านเสียก่อน
Julien Bittel หัวหน้าฝ่ายวิจัย Global Macro Investor (GMI) โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน กล่าวว่า
“โดยพื้นฐานแล้ว มันคือ The Boring Zone ก่อนที่จะเป็น The Banana Zone”
“Banana Zone” เป็นคำศัพท์ที่สร้างขึ้น โดย Raoul Pal ผู้ก่อตั้ง GMI และ crypto OG เพื่ออธิบายช่วงเวลาของการเคลื่อนไหวของราคาที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant เชื่อว่า การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนจะขึ้นอยู่กับตัวชี้วัดที่สำคัญ 3 ประการที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
ราคา Bitcoin ลดลง 3.06% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ที่มา: CoinMarketCap
IT Tech นักเขียนนามแฝงของ CryptoQuant กล่าวว่า การขาย Bitcoin ของนักขุดจำเป็นต้องลดลง เนื่องจากรายได้จากการขุด ลดลงถึง 55% นับตั้งแต่เหตุการณ์ halving ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ 73,679 ดอลลาร์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รายได้ของนักขุด Bitcoin ก็ลดลงอย่างมาก
ตามข้อมูลของ Blockchain.com เมื่อวันที่ 11 มีนาคม รายได้ต่อวันจากรางวัลบล็อกและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอยู่ที่ประมาณ 78.89 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ลดลงเหลือประมาณ 34.26 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการลดลงประมาณ 56%
นักวิเคราะห์ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องมีการไหลเข้าของ Stablecoin เพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีการ “ออกสกุลเงินดิจิทัลประเภท Stablecoin เพิ่มเติม” ในตลาด ส่งผลต่อสภาพคล่อง และส่งผลต่อความผันผวนของราคา
ตามข้อมูลจาก CryptoQuant ระบุว่า จำนวนสกุลดิจิทัลประเภท stablecoin ที่ถืออยู่ในทุนสำรองของเว็บเทรดคริปโต ลดลงเกือบ 10% ภายในสองเดือน โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 21.96 พันล้านดอลลาร์
สุดท้ายนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การไหลออกของกองทุน Bitcoin ETF อย่าง Fidelity และ Grayscale Investments จำเป็นต้องลดลง เนื่องจากกองทุนเหล่านี้กำลัง “สร้างแรงกดดันให้เกิดการขาย Bitcoin”
จากข้อมูลของ Farside เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน กองทุน Fidelity Bitcoin Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC) และ กองทุน Grayscale Bitcoin Trust ETF (GBTC) มีเงินทุนไหลออก 83.1 ล้านดอลลาร์ และ 62.3 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
นักเทรดหลายคนคาดการณ์ว่า ตลาด Bitcoin จะ “หลุดออกจากกรอบแนวโน้มแบบ Sideways Chop” ในเร็ว ๆ นี้
ในขณะที่รายงาน ราคา Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ที่ 64,966 ดอลลาร์ ลดลง 2.35% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ CoinMarketCap ราคา Bitcoin ลดลง 12% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 73,679 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม ซึ่ง IT Tech เชื่อว่า นี่อาจเป็น “จุดต่ำสุดของตลาด”
นักวิเคราะห์ Bittel ให้ความเห็นว่า การที่ราคา Bitcoin ไม่ค่อยขยับขึ้นลงนั้น เป็นสัญญาณของการเข้าสู่ช่วง “Sideways Chop” ซึ่งหมายถึงช่วงที่ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ อย่างไรก็ตาม นักเทรดหลายคนคาดการณ์ว่า แนวโน้มราคาน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเร็วๆ นี้
นักเทรดคริปโต Rekt Capital ได้โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน โดยชี้เส้นแนวโน้มขาลง ของ Bitcoin และกล่าวว่า
“ถ้าราคา Bitcoin สามารถทะลุเส้นแนวโน้มขาลงนี้ได้ จะเป็นการริเริ่มภาวะเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา ” โดยข้อความนี้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ที่ว่า Bitcoin อยู่ในช่วงขาลงมาตลอดทั้งเดือนมิถุนายน
ที่มา : cointelegraph