เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เกิดวิกฤตที่เกี่ยวข้องกับ stablecoin ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ค้ำด้วยอสังหาริมทรัพย์อย่าง Real USD (USDR) ทำให้นักเทรดรายหนึ่งที่ swap USDR กว่า 131,350 USDR ไปเป็น USDC แต่เขากลับได้เหรียญมาในมูลค่า 0 USDC
ตามรายงานเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมโดยบริษัทวิเคราะห์ บล็อกเชน Lookonchain การ swap ที่เกิดขึ้นบน BNB Chain ผ่านเว็บเทรด decentralized (DEX) อย่าง OpenOcean USDR depeg หลุดจากมูลค่าที่ควรจะเป็นมาเกือบ 50% เนื่องจากวิกฤติสภาพคล่อง บอทมูลค่า MEV ได้ใช้ช่องโหว่จากการหลุด peg ของเหรียญฟันกำไรกว่า 107,002 ดอลลาร์จากทำ arbitrage
ในช่วงที่สภาพคล่องไม่ดีนั้น Slippage ของ DEX อาจดีดขึ้นไปสูงถึง 100% ในเดือนกันยายน 2022 Cointelegraph รายงานว่านักเทรดพยายามขาย Compound USD (cUSDC) มูลค่ากว่า 1.8 ล้านดอลลาร์ผ่าน Uniswap v2 และได้รับสินทรัพย์มูลค่า 500 ดอลลาร์กลับมาแทน ในเคสนี้ MEV บอทได้ทำการ arbitrage ฟันกำไรกว่า 1 ล้านดอลลาร์ก่อนจะถูกแฮ็กเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม USDR นั้น depeg หลุดจาก $1 หลังจากที่ผู้ใช้ร้องขอในการไถ่ถอน stablecoin มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะมีการค้ำเหรียญในอัตราส่วนที่ครบ 100% แต่มีการแบ่งค้ำ 2 ส่วนคือที่ประมาณ 15% ค้ำด้วยสินทรัพย์มูลค่า 45 ล้านดอลลาร์ซึ่งในขณะนั้นได้ค้ำด้วยโทเค็น TNGBL ที่มีสภาพคล่องโดยส่วนที่เหลือค้ำด้วยสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ที่ถูก tokenized ทำให้มัสภาพคล่องต่ำ
ตามที่นักวิเคราะห์ Tom Wan อธิบายไว้ สินทรัพย์โทเค็นถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐาน ERC-721 ซึ่งไม่สามารถแยกแบ่งส่วนเพื่อสร้างสภาพคล่องสำหรับการไถ่ถอนของนักลงทุน นอกจากนี้บ้านที่ถูกนำมา tokemized ก็ไม่สามารถขายได้ทันทีเพื่อให้เป็นไปตามคำร้องขอถอนเงินของนักลงทุน โดยภาพรวมแล้ว ส่วนกองคลังของ Real USD ไม่สามารถอนุมัติการไถ่ถอนได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
ที่มา : Cointelegraph