ล่าสุด คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่…) พ.ศ. ….มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ส่งผลให้ผู้ที่ลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนไม่จำเป็นที่จะต้องนำส่วนแบ่งหรือรายได้ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในโทเคนมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีก เนื่องจากได้หักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ณ ที่จ่าย (ในอัตรา 15%) ไว้แล้ว ซึ่งจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยโดย นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
สำหรับสาเหตุที่รัฐบาลตัดสินใจยกเว้นการเก็บภาษีครั้งนี้ เกิดขึ้นเพื่อยกระดับการดูแลโทเคนเพื่อการลงทุนให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกับเกณฑ์หลักทรัพย์ทั่วไป รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยระดมทุน และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล รวมถึงความต้องการที่อยากจะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการระดมทุนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล และอยากผู้ประกอบธุรกิจมีทางเลือกในการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลเพิ่มเติมจากการระดมทุนดั้งเดิม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการระดมทุน และการลงทุน รวมไปถึงการจ้างงานในประเทศ อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีละ 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์คาดการณ์ว่า ในปี 2567 จะมีการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนถึง 18,500 ล้านบาท