โปรโตคอล DeFi–ระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยโอกาสแต่ก็ยังมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ ซึ่งปัจจุบันโปรโตคอลเหล่านี้สามารถให้ผลตอบแทนสูงถึง 20% ผ่านการฝากเหรียญ Stablecoin ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากประจำในธนาคารแบบดั้งเดิมกลับให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยอยู่ที่เพียง 1.5-2% เท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรโตคอล DeFi ชั้นนำที่รันอยู่บนเครือข่าย Ethereum Blockchain ( เช่น Aave และ Compound ) สามารถให้ผลตอบแทนจากการให้กู้ยืมเหรียญ USDC และ USDT ด้วยอัตราผลตอบแทนที่สูงถึงร้อยละ 19.18% และ 20.44% ต่อปี (APY)
ในขณะเดียวกัน Compound v3 สามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 15.19% สำหรับ USDC บนเครือข่าย Ethereum ส่วนการให้กู้ยืมเหรียญ stablecoin บนเครือข่ายอื่นๆ เช่น Polygon ( MATIC ), Arbitrum (ARB) หรือ Base จะได้รับผลตอบแทน APY ที่สูงกว่านั้น ตามข้อมูลจาก Finbold ที่ดึงข้อมูลนี้มาจากแต่ละแพลตฟอร์มเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567
อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (APY) ที่สูงเหล่านี้ เกิดขึ้นจากความต้องการกู้ยืมที่สูง ซึ่งนักเทรดบางกลุ่มยินดีที่จะจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ (Borrow APY) สูงถึง 23.45% สำหรับ USDC และ 25.13% สำหรับ USDT บนแพลตฟอร์ม Aave เนื่องจากนักเทรดเหล่านี้อาจนำ Stablecoin ที่กู้ยืมมาไปใช้เก็งกำไรในตลาดคริปโต โดยหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่าย
เจ้าของโปรเจค De-fi ต่างๆ ได้พูดถึงความเสี่ยงจากของผลตอบแทนจากการให้กู้ยืมเหรียญ Stablecoin
ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์สกุลเงินดิจิทัลต่างๆ และเหล่าอินฟลูฯ ได้พูดคุยกันบนแพลตฟอร์ม X เกี่ยวกับความเสี่ยงจากผลตอบแทนในการให้กู้ยืมเหรียญ Stablecoin
ประการแรก Erik Voorhees ผู้ก่อตั้ง ShapeShift ได้ตั้งคำถามว่า ว่าทำไมผู้เล่นรายใหญ่จึงเพิกเฉยต่อการจัดสรรความเสี่ยงนี้
ในทางกลับกัน Hayden Adams ผู้ก่อตั้ง Uniswap (UNI) ได้อธิบายถึงสถานการณ์ที่ขัดแย้งกันของอัตราผลตอบแทนการให้กู้ยืมเหรียญ Stablecoin เหล่านี้ว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ Adams เชื่อว่าผลตอบแทน APY 30% นั้นไม่เพียงพอสำหรับความต้องการของนักลงทุนสาย “crypto native” ในขณะที่นักลงทุนการเงินแบบดั้งเดิมกลับไม่ค่อยอยากรับความเสี่ยงเหล่านี้
โดยสรุปแล้ว แพลตฟอร์มการให้กู้ยืมอาจเสนอโอกาสในการให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดสำหรับการฝากเหรียญ Stable coin เช่น USDC และ USDT ในทางกลับกันเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากการกู้ยืมเหรียญ Stable coin และแบกรับความเสี่ยงจากการเก็งกำไรราคาระยะสั้นในตลาดคริปโต
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเส้นทางยังคงมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เหรียญ Stable coin ของ Tether และ Circle อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานเหล่านี้ ซึ่งสามารถอายัดหรือยึดเงินคงเหลือและสถานะของผู้ใช้ได้ ดังนั้นนักลงทุนจะต้องชั่งน้ำหนักและประเมินความเสี่ยงนี้และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนที่จะใช้เงินทุนเพื่อสร้างโอกาสในการลงทุนเหล่านี้
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง