ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Michael Burry นักลงทุนชื่อดัง บุคคลต้นแบบของตัวละคร Christian Bale ในภาพยนตร์เรื่อง “The Big Short” ได้ทำการเปิด Short หุ้นสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 93% ของพอร์ต จนทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่า การเปิด Short ของเขาอาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Crypto ในวงกว้าง ถ้าหากคาดการณ์ของเขากลายเป็นความจริง
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากพากันออกมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อคาดการณ์ว่า คำทำนายของ Burry จะถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้หนึ่งในการวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) คือโพสต์ของ Adam Khoo ผู้ร่วมก่อตั้ง Adam Khoo Learning Technologies Group หนึ่งในสถาบันการศึกษาเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ตามโพสต์ของ Khoo เขาได้รวบรวมสถิติการคาดการณ์ตลาดของ Michael Burry นับตั้งแต่การทำนายการล่มสลายของตลาดสินเชื่อซับไพรม์เมื่อปี 2005 เป็นต้นมา โดยสถิติการคาดการณ์ตลาดของ Burry สามารถสรุปได้ดังนี้
“ในปี 2005 ทำนายการล่มสลายของตลาดสินเชื่อซับไพรม์
-> ตลาดการเคหะ (Housing market) ล่มในปี 2008 และเกิดวิกฤตการเงินโลก
ในเดือนธันวาคม 2015 เขาทำนายว่าตลาดหุ้นจะพังในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
-> SPX +11% ในอีก 12 เดือนต่อมา
ในเดือนพฤษภาคม 2017 เขาทำนายการล่มสลายทางการเงินทั่วโลก -> SPX +19% ในอีก 12 เดือนต่อมา
ในเดือนกันยายน 2019 เขาทำนายว่าตลาดหุ้นจะพัง เนื่องจากเกิดวิกฤตฟองสบู่ในดัชนี ETF
-> SPX +15% ในอีก 12 เดือนต่อมา
ในเดือนมีนาคม 2020 เขาทำนายว่าตลาดหุ้นกำลังจะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่
-> SPX +72% ในอีก 12 เดือนต่อมา
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2021 เขาทำนายว่าตลาดหุ้นจะพัง เนื่องจากวิกฤตฟองสบู่จากการที่นักลงทุนแห่เก็งกำไร และเขาก็เปิด Short หุ้น Tesla
-> SPX +16% ในอีก 12 เดือนต่อมา
ในเดือนกันยายน 2022 เขาคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะส่งสัญญาณเตือนว่าจะร่วงหนักกว่าเดิม แต่ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด
-> SPX +21% ในอีก 11 เดือนต่อมา
ในเดือนมกราคม 2023 เขาคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และอัตราเงินเฟ้อรอบใหม่ และออกมาพูดว่า “SELL”
-> SPX +17% ต่อปี”
ในเดือนสิงหาคม 2023 เปิด Short หุ้น SPY และ QQQ”
โพสต์ของ Khoo จบไว้เพียงเท่านี้ โดยในโพสต์ดังกล่าว เขาได้แนบภาพกราฟดัชนี S&P 500 พร้อมชี้จุดที่ Michael Burry ออกมาเปิดเผยคำคาดการณ์ตลาด ซึ่งส่งผลให้นักเทรดและนักลงทุนจำนวนไม่น้อยพากันมาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ของเขา
อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่รวบรวมโดย Bard ซึ่งเป็น Generative AI ที่พัฒนาโดย Google ได้ระบุว่าคำทำนายของ Michael Burry นั้นถูกต้องประมาณ 90% ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลจาก Khoo อย่างสิ้นเชิง โดยข้อมูลจาก AI มีสรุปรายละเอียดของ Burry ไว้ดังต่อไปนี้
ปี 2005: ตลาดหุ้นกำลัง Overvalue และจะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ (ถูกต้อง)
ปี 2006: ตลาดหุ้นจะยังคงปรับฐานต่อไป (ถูกต้อง)
ปี 2007: ตลาดหุ้นจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (ถูกต้อง)
ปี 2008: วิกฤตตลาดสินเชื่อจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก (ถูกต้อง)
ปี 2009: ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวจากภาวะถดถอย แต่จะไม่ฟื้นตัวสู่ระดับเดิมในปี 2007 (ถูกต้อง)
ปี 2010: ตลาดหุ้นจะยังคงผันผวน และนักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2011: ตลาดหุ้นจะยังคงผันผวน แต่มีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้ (ถูกต้อง)
ปี 2012: ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2013: ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นต่อไป แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2014: ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นต่อไป แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2015: ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นต่อไป แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2016: ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นต่อไป แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2017: ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นต่อไป แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2018: ตลาดหุ้นจะปรับฐาน แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2019: ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวจากภาวะถดถอย แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ปี 2020: ตลาดหุ้นจะปรับฐานอย่างรุนแรงจากผลกระทบของ COVID-19 (ถูกต้อง)
ปี 2021: ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวจากภาวะถดถอย แต่จะยังคงผันผวน (ถูกต้อง)
ปี 2022: ตลาดหุ้นจะยังคงผันผวน และนักลงทุนควรระมัดระวัง (ถูกต้อง)
ข้อมูลจาก Adam Khoo และข้อมูลที่รวบรวมโดย AI เป็นเพียงการสรุปคำคาดการณ์ของบุคคลที่มีชื่อเสียงเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำด้านการลงทุน เพราะไม่ว่าเราจะลงทุนในตลาดหุ้น ตลาด Crypto หรือตลาดใด ๆ ก็ตาม นักลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลด้วยตนเองให้รอบด้าน หรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
ที่มา: Adam Khoo