เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา อาจารย์ตั๊ม หรืออาจารย์พิริยะ สัมพันธารักษ์ ได้มีโอกาสร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ NEW GEN INVESTOR ของช่อง THE STANDARD WEALTH บน Youtube โดยได้ร่วมพูดคุย และแชร์มุมมองเกี่ยวกับ Bitcoin ซึ่งในบางช่วงของรายการ อาจารย์ตั๊ม ได้เปิดเผยมุมมองว่า บิทคอยน์ควรถือครองในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไร
“จริง ๆ ควรไม่ควร มันแล้วแต่คน คือบางคนเทรดเก่ง เหรียญอะไรก็แล้วแต่ ก็แล้วแต่เขาเลย แต่ว่าที่ผมพูดอย่างงี้ ส่วนใหญ่ผมพูดกับคนที่เขาเข้ามาใหม่ ต้องบอกว่า เป็นการปรับคำพูดให้เหมาะกับผู้ฟังละกัน เพราะฉะนั้น สำหรับเยาวชน สำหรับคนรุ่นใหม่ละกัน ผมเลยแนะนำว่า จริง ๆ ถ้าเรามองย้อนหลัง เอา Data ย้อนหลัง ซัก 10 ปีแล้วกัน Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตของมูลค่าแบบทบต้นอยู่ที่ประมาณ 150% ต่อปี ถ้าเราย้อนหลังไป 15 ปีเลยจะอยู่ที่ประมาณ 220 % ต่อปี” อาจารย์ตั๊มกล่าว
“เรามีสินทรัพย์ที่สามารถเจริญเติบโตทบต้นต่อปี โดยเฉลี่ย บางปีก็ลง บางปีก็ขึ้นนะ แต่แค่คิดในใจง่าย ๆ ประมาณ 200 % ต่อปี แล้วลดลงมาเหลือซัก 1 ใน 10 ก็ได้ เป็น 20% ต่อปี”
พร้อมกันนี้อาจารย์ตั๊มยังได้ตั้งคำถามถึงกำไรที่จะได้ภายใน 20 % ต่อปี สำหรับการเทรดคริปโต โดยกล่าวว่า “ถามว่า ถ้าจะเทรดหุ้นให้ได้ 20% ต่อปี ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ต้องเป็นคุณปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) หากคุณมีสินทรัพย์ที่คุณสามารถถือเฉย ๆ แล้วเอาแค่ 1 ใน 10 ของที่มันเคยทำมาในอดีต ก็คือ 20 % ต่อปี ผมถามว่า คุณจะเทรดไปทำไม ? อันนี้คือเหตุผลที่ 1 นะ”
อันที่ 2 คือ ด้วย Vitality ความสามารถในการอยู่รอด ที่สูงมากของมัน หลายคนที่เข้ามาเทรด เห็นกำไรแล้วมันโลภ พอโลภปุ๊ปอยากจะได้มากขึ้น พออยากจะได้มากขึ้น สิ่งที่เขาใช้ก็มันจะไปตกลงที่การใช้ Leverage คือ การกู้ยืมเงินมาเพื่อเทรด ซึ่งมันจะทำให้ความสามารถในการทนความผันผวนมันลดลง ”
อาจารย์ตั๊ม กล่าวถึงความผันผวนของ Bitcoin สำหรับใช้เพื่อเทรด หรือเก็งกำไรว่า “เราต้องเข้าใจว่า การเจริญเติบโตต่อปี 100 % ต่อปี ทบต้นโดยเฉลี่ย นั่นคือโดยเฉลี่ย แต่ในความเป็นจริงที่มันเกิดขึ้น บางปีมันโต 8000 % บางปีมันโตเป็น 10,000 % บางปีมันติดลบ 90 % สินทรัพย์นี้ความเหวี่ยงที่มันกว้างขนาดนี้ ถ้าคุณใช้ Leverage โอกาสที่ คุณจะพอร์ตแตกระหว่างทางมันจะสูงมาก ”
อาจารย์ตั๊ม กล่าวเตือนต่อไปว่า “แล้วมันจะเจ็บใจยิ่งกว่านั้น เมื่อเรามองย้อนกลับมา เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี แล้วเราคิดว่า ถ้าเราถือไว้ นิ่ง ๆ มันไม่ต้องแตก ระหว่างทางก็ได้
เพราะฉะนั้นสำหรับ Bitcoin ผมเลยมองว่า ด้วยความผันผวนที่สูง การเทรดมันจะอันตรายกว่าหลายสินทรัพย์ แต่จริง ๆ คำนี้อาจจะไม่เป็นจริงเท่าไหร่แล้ว เพราะว่าตลาดหุ้นตอนนี้ก็ผันผวนมากเหลือเกิน”
สุดท้าย อาจารย์ตั๊มยังได้กล่าวเสริมถึง ผลตอบแทนที่คาดหวังของนักลงทุนสำหรับมูลค่าของ Bitcoin ไว้ว่า “แล้วเรื่องที่ 2 คือเรื่อง Expected Return ที่เราจะได้ ถ้าเรายังวัดมูลค่าของเงิน ในหน่วยเงินบาท หรือหน่วยเงินดอลลาร์อยู่ มันก็สูงพอที่จะทำให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่เรา allocate asset บางส่วนไว้ดีกว่า ถือมันไว้นิ่ง ๆ คล้ายกับเป็นหลักประกันอันนึงว่า ถ้า Bitcoin มันสามารถประสบความสำเร็จได้ อย่างน้อยเราก็มีติดกระเป๋าไว้หน่อยนึง”
คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเค็นดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา : THE STANDARD WEALTH