รายงานล่าสุดจาก Glassnode ได้ออกมาเปิดเผยว่าผู้ถือ Bitcoin ระยะสั้นมากกว่า 75% มีกำไรแล้ว หลังราคาเหรียญพุ่งขึ้นมาทะลุ 67,000 ดอลลาร์ เมื่อไม่นานมานี้
โดยกลุ่มผู้ถือครองระยะสั้นมักใช้เป็นตัวแทนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการวัดความต้องการ Bitcoin และรูปแบบการซื้อล่าสุด ซึ่งแนวโน้มราคาที่พุ่งสูงขึ้นนี้ได้ช่วยบรรเทาภาระให้กับผู้ถือครองระยะสั้นได้อย่างมาก หลังกลุ่มผู้ถือครองเหล่านี้เคยจำนวนมากกว่า 90% ขาดทุนในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
“การพุ่งขึ้นครั้งนี้ได้ทะลุฐานต้นทุนของผู้ถือระยะสั้นไปแล้ว และได้คืนอุปทานที่ถืออยู่ 75% ให้เป็นกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากตัวชี้วัด STH-MVRV ที่ในขณะนี้ได้ฟื้นตัวขึ้นมาเหนือระดับจุดคุ้มทุนที่ 1.0 แล้ว”
แม้ว่าราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจเมื่อเร็วๆ นี้ แต่สัญญาซื้อขาย Bitcoin ล่วงหน้ารวมมูลค่ากว่า 3.9 พันล้านดอลลาร์กำลังจะหมดอายุลง ซึ่งอาจทำให้ราคา BTC ร่วงอย่างรุนแรงได้
ตามที่นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง Rekt Capital เขียนในโพสต์ X เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ราคา Bitcoin จำเป็นต้องยืนเหนือระดับ 65,000 ดอลลาร์ให้ได้เพื่อรักษาแนวโน้มขาขึ้นต่อไป
“การทดสอบซ้ำประสบความสำเร็จ โดย Bitcoin ยืนยันแนวรับที่ 65,000 ดอลลาร์ ราคาจะยังคงอยู่ที่บริเวณ 65,000-71,500 ดอลลาร์ (สีแดง) ต่อไป”
และถ้าหากว่าราคา Bitcoin สามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นนี้เอาไว้ได้ แนวต้านราคาถัดไปจะอยู่ที่ประมาณ 68,000 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าหากว่าราคาสามารถยืนเหนือ 68,000 ดอลลาร์ได้จริง มันจะทำให้เลเวอเรจมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ถูกชำระออกไป ตามข้อมูลจาก CoinGlass
ที่มา: Cointelegraph