<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

BlackRock ตามรอย Satoshi และ Binance! ก้าวขึ้นเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

BlackRock กำลังเพิ่มการถือครอง Bitcoin อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมี Bitcoin อยู่เกือบ 350,000 BTC จึงทำให้ BlackRock กลายเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก Satoshi Nakamoto และเว็บเทรด Binance อ้างอิงตามข้อมูลบนบล็อกเชน

การสะสม Bitcoin ครั้งใหญ่ของ BlackRock เป็นส่วนหนึ่งในแผนของบริษัทที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีผลิตภัณฑ์กองทุน ETF ต่าง ๆ และความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบันเป็นแรงขับเคลื่อน

ตอนนี้ BlackRock เป็นเจ้าของ Bitcoin เกือบ 350,000 BTC แล้ว

การเข้ามาของ BlackRock ในตลาด Bitcoin ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากในอดีต CEO ของ BlackRock อย่าง Larry Fink เป็นคนที่ไม่เชื่อมั่นใน Bitcoin โดยมองว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและอาจเป็นอันตรายได้

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ Larry Fink ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน Larry Fink มองว่า Bitcoin เป็น “สินทรัพย์ระหว่างประเทศ” ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทางการเงิน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงความคิดครั้งนี้เป็นแรงกระตุ้นให้ BlackRock เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดคริปโตมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือ กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกลยุทธ์นี้ โดยกองทุน IBIT ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่นักลงทุนสถาบันที่มองหาช่องทางที่ปลอดภัยในการลงทุน Bitcoin  ส่งผลทำให้ BlackRock ถือครอง Bitcoin เกือบ 350,000 BTC 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin เท่านั้น ที่มีการคาดการณ์ว่าจะถือครอง Bitcoin จำนวน 1.1 ล้าน BTC และเว็บเทรด Binance ซึ่งมีรายงานว่าถือครอง Bitcoin ประมาณ 550,000 BTC ซึ่งมีมากกว่า BlackRock

Eric Balchunas นักวิเคราะห์กองทุน ETF ของ Bloomberg กล่าวว่า “ไม่รู้มาก่อนเลยว่า กองทุน ETF ของสหรัฐฯ กำลังจะแซง Satoshi สำหรับการถือครอง Bitcoin ในเดือนตุลาคม BlackRock เพียงรายเดียวก็ถือครอง Bitcoin มากเป็นอันดับ 3 แล้ว และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นอันดับ 1 ในช่วงปลายปีหน้า และน่าจะอยู่ในอันดับนี้เป็นเวลาไปอีกนาน”

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน Grayscale เป็นผู้นำในตลาดกองทุน Bitcoin ETF โดยถือครอง Bitcoin มากกว่า BlackRock แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป โดย Grayscale กำลังเผชิญกับการถอนเงินของลูกค้า เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่สูงถึง 2.5% ของ Grayscale เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 0.25%

การเข้ามาของ BlackRock ในตลาดคริปโตได้เปิดประตูให้ผู้เล่นทางการเงินแบบดั้งเดิมเข้าสู่ตลาดมากขึ้น การยื่นเอกสารครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่า สถาบันการเงินขนาดใหญ่ เช่น Capula Management, Goldman Sachs, DRW Capital และคณะกรรมการการลงทุนและการเกษียณอายุหลายแห่ง ได้เข้าซื้อหุ้นของกองทุน iShares Bitcoin Trust ของ BlackRock

ที่มา : beincrypto