ดูเหมือนว่าในตอนนี้ Bitcoin กำลังเข้าสู่สัปดาห์สำคัญทางเศรษฐกิจมหภาค ในขณะที่ตลาดกำลังต่อสู้เพื่อรักษาระดับราคา 60,000 ดอลลาร์ไว้อย่างเข้มข้น เนื่องจากมันสามารถตัดสินได้ว่าตลาดคริปโตจะกลับมามีแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้งหรือไม่
ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะมาชี้ชะตาราคา Bitcoin ในสัปดาห์นี้คือการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเท่าไร ซึ่งนี่อาจเป็นการลดครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี ที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับขนาดของการลดดอกเบี้ยว่าจะรุนแรงกว่าที่คาดหรือไม่ ส่งผลให้ตลาดยังคงระมัดระวัง ในขณะที่นักวิเคราะห์ยังคงรอดูว่า Bitcoin จะตอบสนองอย่างไร และในวันนี้เราจะมาสรุป 5 สิ่งที่คุณควรจับมามองเกี่ยวกับ Bitcoin ในสัปดาห์นี้
ราคา Bitcoin รายสัปดาห์ที่มีแนวโน้มชะลอตัวอยู่
ในช่วงการปิดตลาดวันที่ 15 กันยายน ราคาของ Bitcoin ยังคงลดลงต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของราคาที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 59,000 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นกว่า 7.8% ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาระดับราคาที่สำคัญไว้ได้
การเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าสัปดาห์นี้จะมีความผันผวนมาก โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าหาก Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ จะมีโอกาสในการฟื้นตัวต่อไป
“นี่จะเป็นสัปดาห์ที่ผันผวนสำหรับ Bitcoin”
การลดดอกเบี้ยของ Fed
การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC วันที่ 18 กันยายนนี้ จะเป็นเรื่องที่ทุกคนจับตามอง โดยข้อมูล FedWatch ของ CMD คาดว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.5% ซึ่งการลดครั้งนี้อาจจะส่งผลต่อสภาพคล่องในตลาด
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เช่น Bitcoin แต่บางฝ่ายก็เตือนว่าการลดดอกเบี้ยที่มากเกินไปอาจสะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งขึ้น
“ในอดีต การลดดอกเบี้ยอย่างฉับพลันเกิดขึ้นก่อนภาวะเศรษฐกิจถดถอย เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลหวาดกลัวและกำลังดิ้นรนเพื่อแก้ไขการใช้งบประมาณที่เกินขอบเขต”
ตัวชี้วัดทางเทคนิคของ Bitcoin ที่ยังคงเจอกับแนวต้าน
แม้ว่าราคาของ Bitcoin จะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น Ichimoku cloud และ Relative Strength Index (RSI) ยังแสดงให้เห็นถึงแนวต้านที่สำคัญ โดยในกราฟรายสัปดาห์ ราคายังต่ำกว่าเส้น Tenkan-sen และ Kijun-sen ขณะที่ RSI ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50
อย่างไรก็ตาม ในกราฟ Bitcoin รายวันและ 3 วัน สัญญาณมีทิศทางบวกมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin อาจจะกลับมาพุ่งขึ้นได้ในช่วงปลายเดือนกันยายนและเข้าสู่ช่วงขาขึ้นในเดือนตุลาคม
“มีหลายอย่างที่ชี้ว่าราคาจะพลิกกลับในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน Uptober กำลังจะมาถึงแล้ว”
Bitcoin แสดงรูปแบบที่ “แม่นยำ” กับรอบก่อนหน้าอย่างน่าประหลาด
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือตั้งแต่รอบขาลงของ Bitcoin ในปลายปี 2022 ราคาเหรียญก็ได้แสดงพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับรอบก่อนหน้าอย่างมาก โดย Checkmate นักวิเคราะห์จาก Checkonchain ชี้ว่า ราคาของ Bitcoin นั้นฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบตลาดหมีที่ผ่านมาด้วยรูปแบบที่ “แม่นยำ” และซ้ำกับรอบก่อนหน้าอย่างชัดเจน
รูปแบบนี้สะท้อนให้เห็นว่า Bitcoin กำลังเดินตามรอยการฟื้นตัวของรอบที่ผ่านมาหลังจากตลาดหมี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ลงทุนต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากเจอภาวะตลาดหมีในระยะยาว
“ฉันชอบการเปรียบเทียบช่วงขาลงของราคาหุ้นมากที่สุด เพราะเป็นการอธิบายถึงเวลาทางจิตวิทยาที่นักลงทุนใช้ในการฟื้นตัวจากตลาดขาลง การวัดแนวโน้มขาขึ้นอาจไม่เกี่ยวข้อง แต่ระยะเวลาต่างหากที่อาจเกี่ยวข้อง”
Ethereum กำลังอ่อนแอหนัก ในขณะที่ Bitcoin มีสัดส่วนการครองตลาดถึง 58%!
ในขณะที่ Bitcoin มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง Ethereum (ETH) กลับประสบปัญหาหนัก ราคาของ ETH เทียบกับ BTC (ETH/BTC) ได้ลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี โดยแตะระดับ 0.0387 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2021
สถานการณ์นี้ส่งผลให้ Bitcoin มีสัดส่วนการครองตลาด (dominance) เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนแตะระดับ 58.07% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง
อย่างไรก็ตาม Michaël van de Poppe นักวิเคราะห์ชื่อดังคาดว่า Bitcoin Dominance กำลังจะถึงจุดสูงสุดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของ Ethereum โดยมองว่าบรรยากาศตลาดตอนนี้บ่งบอกว่าเราใกล้แล้วถึงจุดนั้นแล้ว ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงการปรับตัวของ Altcoin
“ผมคาดว่าอัตราส่วนความโดดเด่นของ Bitcoin กำลังจะถึงจุดสูงสุดในบริเวณนี้ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ $ETH แต่ดูเหมือนว่าเรากำลังใกล้ถึงจุดนี้แล้ว จากความรู้สึกของตลาดในปัจจุบัน”
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph