Michaël van de Poppe นักลงทุนชื่อดังและเทรดเดอร์ ผู้ก่อตั้ง MN Consultancy, MN Capital และ MN Academy เผยว่า Bitcoin กลับเข้าสู่ตลาดกระทิงอีกครั้ง และอาจมีโอกาสแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทว่าราคานี้อาจมาพร้อมกับวิกฤตหนี้ที่อาจกระทบราคาสินทรัพย์ทั้งหมดในระยะสั้น
ในการสัมภาษณ์กับ Jonathan DeYoung พิธีกรรายการ Decentralize with Cointelegraph ที่งาน DKGcon 2024 ณ อัมสเตอร์ดัม van de Poppe ได้พูดถึงสถานะตลาดกระทิงของ Bitcoin โอกาสของฤดูกาล Altcoin (Altseason) ผลกระทบจากการที่ Donald Trump ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และประเด็นอื่น ๆ อีกมากมาย
ทว่าในระหว่างการพูดคุย van de Poppe ได้ชี้ว่า Bitcoin กำลังอยู่ในช่วง “boring zone” และรอเข้าสู่ช่วง “banana zone” ที่คึกคักกว่านี้ เขามองว่าปัจจัยสำคัญกำลังก่อตัวขึ้น และเชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีที่สำคัญสำหรับตลาด ซึ่งเขาคาดการณ์ว่ารอบตลาดในครั้งนี้จะยาวกว่ารอบก่อน ซึ่งอาจยาวไปถึงปี 2026
และสำหรับคำถามที่ว่า Bitcoin จะสามารถแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ได้หรือไม่ เขากล่าวว่าระดับดังกล่าวน่าจะเป็นไปได้ ตราบใดที่นโยบายการพิมพ์เงินจากธนาคารกลางยังคงอยู่ แต่เตือนว่านักลงทุนมักมองข้ามปัญหาหนี้สินที่ทวีคูณขึ้น ซึ่งอาจสร้างวิกฤตหนี้คล้ายปี 2008 ที่ผ่านมา หากเงินในระบบลดลงและกำลังซื้อถดถอย มูลค่าของ Bitcoin ในหน่วยดอลลาร์สหรัฐก็อาจได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงผลกระทบจากการที่ Donald Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง โดยมองว่านโยบายลดการควบคุมของ Trump อาจช่วย Bitcoin ได้ในระยะสั้น แต่ในระยะกลางหาก Trump พยายามลดเงินเฟ้ออย่างจริงจัง ตลาดอาจมีผลกระทบเชิงลบต่อมูลค่าของ Bitcoin
เขาย้ำว่า Bitcoin ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ซึ่งผู้คนมักจะประเมินความสำคัญของการเลือกตั้งเกินจริง
“เมื่อถึงเวลานั้น ปริมาณเงินดอลลาร์ที่หมุนเวียนในระบบจะลดลง ซึ่งจะส่งผลให้กำลังซื้อหดตัวตามไปด้วย และราคาของ Bitcoin ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน แน่นอนว่าผมคาดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในบางช่วงเวลา แต่ถ้าเราต้องเจอกับวิกฤตก่อนที่จะถึงจุดนั้น มันอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อมูลค่าของสินทรัพย์ทั้งหมดเมื่อประเมินในหน่วยดอลลาร์สหรัฐ”
ที่มา: Cointelegraph