BTC ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก ได้แซงหน้าบริษัท Saudi Aramco ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย โดยมี Market Cap เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลัง Donald Trump ชนะการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้หลายคนคาดหวังว่ากฎระเบียบต่าง ๆ จะเอื้อต่อสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น และหลังจากนั้น BTC ก็ได้เริ่มต้นการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นจากระดับ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปสู่ระดับ 93,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว
Bitcon พลิกแซง Saudi Aramco
Market Cap ของ Bitcoin ที่ 1.807 ล้านล้านดอลลาร์ ได้แซงหน้าบริษัท Saudi Aramco ที่ 1.804 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกเมื่อพิจารณาจาก Market Cap
นอกจากจะแซงหน้าบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว Market Cap ของ Bitcoin ยังแซงหน้า แร่เงิน (1.706 ล้านล้านดอลลาร์) และบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง Meta Platforms (1.398 ล้านล้านดอลลาร์) Tesla (1.029 ล้านล้านดอลลาร์) และ Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett (1.013 ล้านล้านดอลลาร์)
Bitcoin อยู่อันดับรองจาก Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ที่มี Market Cap อยู่ที่ 2.116 ล้านล้านดอลลาร์ สินทรัพย์ 5 อันดับแรก ได้แก่ ทองคำ Nvidia Apple Microsoft และ Amazon โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 17.171 ล้านล้านดอลลาร์ 3.58 ล้านล้านดอลลาร์ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ และ 2.25 ล้านล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
หากต้องการให้ BTC แซงหน้า Alphabet ราคาจะต้องพุ่งขึ้นไปที่ประมาณ 108,000 ดอลลาร์ และหากต้องการโค่น Apple ราคาของสกุลเงินดิจิทัลระดับอัลฟ่าจะต้องพุ่งขึ้นไปที่ประมาณ 180,000 ดอลลาร์
BTC จะแซงหน้าทองคำได้หรือไม่
ในขณะเดียวกัน แม้ว่า Bitcoin มักถูกเรียกว่า “ทองคำดิจิทัล” แต่การแซงหน้า Market Cap ของทองคำนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่า 10 เท่า
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของการยอมรับทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นช่องทางการค้าหลัก อาจผลักดันให้ Market Cap ของ Bitcoin พุ่งสูงถึง 17 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับที่มีโอกาสเป็นไปได้ได้เมื่อพิจารณาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
Source: ZyCrypto