วุฒิสมาชิก cynthia lummis หนึ่งในนักการเมืองหัวหอกผู้สนับสนุน Bitcoin ในสหรัฐฯ ได้เผยแพร่เอกสารถึงแผนการที่จะเสนอร่าง Bitcoin act 2024 ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก เนื่องจากเป็นการผลักดันให้บิตคอยน์ก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเงินระดับชาติ
แต่กฎหมายนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง? ในบทความนี้เราจะมาอธิบายไปพร้อม ๆ กัน
1 จัดเก็บ Bitcoin เป็นทุนสำรอง
ประการแรกคือการจัดเก็บ Bitcoin เป็นทุนสำรองพร้อมกับสร้างเครือข่ายสำหรับจัดเก็บ Bitcoin โดยเฉพาะ ซึ่งจะใช้ระบบกระจายอำนาจและมีสถานที่จัดเก็บกระจายทั่วสหรัฐฯ
2 โครงการจัดซื้อ Bitcoin
ประการที่สอง คือการเสนอโครงการจัดซื้อ Bitcoin จำนวน 200,000 BTC ในทุก ๆ ปีเป็นระยะเวลา 5 ปี จากนั้นให้เก็บสินทรัพย์ดังกล่าวไว้เป็นเวลา 20 ปีเป็นอย่างต่ำ
3 ระบบ Proof-of-Reserve
ประการที่สาม คือการสร้างระบบตรวจสอบทุนสำรอง โดยจำเป็นที่จะต้องมีรายงานการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระทุก ๆ ไตรมาส และมีระบบการแสดงยอดทุนสำรองด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย
4 ควบรวม Bitcoin ทั้งหมดในแต่ละหน่วยงาน
ประการที่สี่ เก็บรวมรวม Bitcoin ทั้งหมดที่กระจายตัวกันอยู่ในแต่ละหน่วยงาน ให้เข้ามาสู่คลังทุนสำรอง Bitcoin
5 รัฐสามารถเข้าร่วมได้โดยความสมัครใจ
ประการที่ห้า คือการให้แต่ละรัฐสามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ด้วยการฝาก หรือ ถอน เงินทุนสำรองจากบัญชีย่อยของรัฐ
6 ชดเชยต้นทุน
ประการที่หก กำไรสุทธิของธนาคารกลางสหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องถูกหักล้างเป็นจำนวนกว่า 6 พันล้านดอลลาร์เพื่อนำมาเข้าคลังทุนสำรอง Bitcoin
7 ปกป้องสิทธิในการจัดเก็บ Bitcoin
และประการสุดท้าย คือ การยอมรับในสิทธิที่จะเก็บรักษา Bitcoin ไว้ด้วยตนเองของประชาชน โดยหน่วยงานหรือรัฐบาลจะไม่สามารถยึด Bitcoin ที่มีที่มาถูกต้องตามกฎหมายได้
ในขณะที่ อ.ตั๊ม พิริยะ หนึ่งในกูรูด้าน Bitcoin ในประเทศไทย แสดงความคิดเห็นผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่าหากกฎหมายนี้ผ่านการบังคับใช้จริง สหรัฐฯ อาจต้องพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล เพื่อให้สามารถจัดซื้อบิตคอยน์ได้ตามแผนที่กำหนดไว้