<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตลาดคริปโตหวนคืนสู่เหรียญ ‘Layer-2’ บนเชน ETH หลัง Sideway มานานหลายเดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดเหรียญ Layer-2 (L2) เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจะเห็นได้ว่าเหรียญชั้นนำหลายตัวเริ่มขยับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือนกันยายน พร้อมส่งสัญญาณการฟื้นตัว โดย Arbitrum และ Optimism ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในการฟื้นตัวด้านมูลค่าตลาด ซึ่งเรียกกระแสความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนให้กลับมาสู่ระบบนิเวศนี้อีกครั้ง

เหรียญ ‘Layer-2’ หลุดออกจากช่วง Sideway แล้ว!

เหรียญ L2 กำลังจะจบช่วงการปลดล็อกเหรียญ ซึ่งแรงขายจากการ Unlock เหรียญและ Airdrop ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ตลาดเริ่มกลับมาสมดุล นอกจากนี้ มูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นยังสะท้อนถึงการใช้งานจริง โดยเงินทุนและสภาพคล่องไหลเข้าสู่เหรียญ L2 ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง

ในภาพรวม เหรียญLayer-2 ได้กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยมูลค่าตลาดที่พุ่งแตะ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะยังเป็นเพียงเศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดเหรียญมีมที่เคยทะลุ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ แต่สิ่งที่ Layer-2 เหนือกว่าคือความยั่งยืนและศักยภาพในการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้งานจริง ที่จะช่วยส่งเสริมโลกคริปโตในระยะยาว

ทั้งนี้ Base ยังคงเป็นบล็อกเชน Layer-2 ที่มีการเติบโตสูงที่สุดในแง่ของจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยการที่โปรโตคอลนี้ยังไม่มีเหรียญ จึงไม่มีปัจจัยผลักดันด้านการเติบโตของราคาเหรียญ ส่งผลให้ปัจจุบัน Base มีมูลค่าการเชื่อมโยงโทเคนเพียง 2.27 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งยังคงตามหลังยักษ์ใหญ่อย่าง Arbitrum ที่ครองมูลค่า 8.48 พันล้านดอลลาร์ และ Optimism ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์

เครือข่าย Layer-2 บน Ethereum แข่งกันดุเดือด

หนึ่งในสาเหตุที่เครือข่าย L2 นั้นได้รับความสนใจมากขึ้น มาจากการแข่งขันอันดุเดือดเพื่อแย่งชิงพื้นที่บน Ethereum ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเครือข่าย L2 ส่วนใหญ่ได้จ่ายเงินจำนวนไม่น้อยเลย ให้กับ Ethereum เพื่อใช้ blobs หรือ calldata ในการรักษาความปลอดภัยบันทึกธุรกรรมของตนเอง  โดยความต้องการนี้ได้จุดประกายให้เกิดตลาดใหม่อย่าง Blob หรือ Calldata ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในโลกคริปโต 


ค่าธรรมเนียม Blob แซงหน้า Tether ในการเผาไหม้ ETH ด้วยการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจาก L2 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มา: Ultrasound Money

จะเห็นได้ว่าค่าธรรมเนียมของ Blob ยังคงเป็นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการใช้งาน L2 ที่เพิ่มขึ้นยังช่วยลดอัตราเงินเฟ้อของ Ethereum ลงเหลือเพียง 0.32% เนื่องจากมีการเผาค่าธรรมเนียมมากขึ้น ทำให้เครือข่าย Ethereum จะผลิตเหรียญใหม่สุทธิประมาณ 500,000 เหรียญต่อปี แทนที่จะเป็นมากกว่า 900,000 เหรียญต่อปี

มากไปกว่านั้นเครือข่าย L2 สามารถเลือกใช้ระหว่าง Blob และ Calldata โดยขึ้นอยู่กับต้นทุนสัมพัทธ์ในช่วงเวลานั้น สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน Ethereum Blob ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเครือข่าย L2 เนื่องจากการใช้ calldata จะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปที่ทำธุรกรรม L1 โดยตรงแออัด และทำให้ Ethereum แพงเกินไปสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม เหรียญ L2 กำลังเร่งเครื่องกลับมาอีกครั้ง! หลังจากที่มูลค่าลดลงเฉลี่ยถึง 13% ตลอดปีที่ผ่านมา แต่ในไตรมาสล่าสุด เหรียญ L2 ชั้นนำกลับพุ่งขึ้นเกือบ 50% แสดงถึงพลังฟื้นตัวที่น่าจับตามอง แม้ว่า Layer-2 อาจยังไม่ใช่กระแสหลักในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่สัญญาณการฟื้นตัวและการกลับมาเป็นที่สนใจในหมู่นักลงทุนเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตอกย้ำถึงศักยภาพที่ไม่ควรมองข้าม

ที่มา:cryptopolitan