VanEck หนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ล่าสุดได้คาดการณ์ว่า การจัดตั้ง Bitcoin Reserve คงคลังสำรองของสหรัฐฯ อาจช่วยลดหนี้ให้กับประเทศได้มากถึง 35% ภายในระยะเวลาอีก 24 ปีข้างหน้านี้หรือคิดเป็นปี 2049 ซึ่งในขณะนั้นราคาของ Bitcoin อาจมีมูลค่าถึงเหรียญละ $42.3 ล้านต่อ 1 BTC
VanEck ระบุว่าเพื่อที่จะบรรลุผลดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐฯจำเป็นต้องเก็บ Bitcoin เป็นจำนวนมากถึง 1 ล้าน BTC สอดคล้องกับแผนการของวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis อีกทั้งตัวของ Bitcoin เองก็จำเป็นจะต้องเติบโตได้ถึง 25% ต่อปีด้วยเช่นกัน เพราะหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นกว่า 5% ไปควบคู่กันในแต่ละปีจาก 37 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2025 เป็น 119.3 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2049
Matthew Sigel หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck และนักวิเคราะห์ Nathan Frankovitz ต่างเชื่อมั่นว่าการคาดการณ์ของพวกเขานั้นเป็นไปได้ และปี 2025 นี้จะเป็นปีแรกที่เริ่มนับการเติบโตของ Bitcoin ปีละ 25% โดยเริ่มที่ราคา $200,000 หรืออีกหนึ่งเท่าจากระดับราคาปัจจุบัน
หากราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นสูงถึง $42.3 ต่อ BTC หมายความว่ามันจะครองส่วนแบ่งตลาดถึง 18% เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทุกอย่างในโลก ซึ่งมากกว่าระดับปัจจุบันที่ 0.22% หรือ 900 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามแม้เป้าราคา $200,000 ของ VanEck จะดูเพ้อฝันแต่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้เนื่องจาก การเข้ามาดำรงตำแหน่งของทรัมป์และเหล่าผู้สนับสนุน Bitcoin โดย Jack Maller ซีอีโอของ Strike เชื่อมั่นว่าในวันแรกที่ทรัมป์รับตำแหน่งเขาจะออกคำสั่งพิเศษสร้าง Bitcoin Reserve ทันทีภายใต้ร่างกฎหมายของ Lummis
นอกจากนี้ บรรดาประเทศในกลุ่ม BRICS ยังมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะให้ความสนใจในตัวของ Bitcoin ในฐานะสกุลเงินใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
ที่มา : Cointelegraph